อัปเดต ! เสริมจมูกมีกี่แบบ ควรรู้อะไรบ้างก่อนทำจมูก 2025
เสริมจมูก ทำจมูก หรือ เสริมดั้ง เป็นการทำศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมเพื่อช่วยให้ใบหน้าดูสมบูรณ์โดดเด่นมากขึ้นก่อนที่เราจะทำจมูก
ซึ่งปัจจุบันมีเทคนิคในการทำศัลยกรรมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะทำจมูกให้ดั้งโด่งเป็นธรรมชาติ เช่น ทรงหยดน้ำ ทรงสโลปปลายพุ่ง หรือศัลยกรรมจมูกให้ดูโดดเด่นอย่างเช่นทรงจมูกสายฝอ
สำหรับคนไข้ที่กำลังหาข้อมูลเพื่อเสริมจมูกครั้งแรก หรือทำจมูกมาแล้วต้องการแก้จมูกในกรุงเทพที่ไหนดี?
ในบทความนี้คุณหมอแซมที่ WE Clinic ได้รวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับทำจมูกมาให้ทราบกันอย่างละเอียด
เสริมจมูก คืออะไร
การเสริมจมูก (Rhinoplasty) คือการเปลี่ยนแปลง แก้ไขรูปทรงจมูกเดิมให้สวยขึ้น เพิ่มความโด่ง ความมีมิติ รวมไปถึงการแก้ไขรูปทรงที่เป็นปัญหาอย่างเช่นจมูกเบี้ยว ไม่ได้สัดส่วน ให้กลับมามีรูปทรงเป็นปกติ และดูสมส่วนขึ้น
โดยการเสริมจมูกในปัจจุบันมีการใช้วัสดุเสริมหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการใช้ซิลิโคน หรือใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายตนเองอย่างเช่นกระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกซี่โครง
อีกทั้งยังมีหลายเทคนิคที่ใช้แก้ปัญหาทรงจมูกที่หลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ การแก้ไขทรงจมูกมีฮัมพ์ จมูกงุ้ม จมูกโต จมูกสั้น ให้ได้ทรงสวยด้วยเสริมจมูกทรงต่าง ๆ
“เสริมจมูกแบบโอเพ่น ปรับโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูก”
- ก่อนแก้ไข : จมูกสั้นแหงน ปลายทู่ หดรั้งจากการเสริมซิลิโคนแท่งเดิม
- หลังแก้ไข : ทรงจมูกยาวขึ้น พุ่ง เรียวสวย ไม่รั้งปลายผิว
- ก่อนแก้ไข : ฮัมพ์สูง โครงสร้างจมูกใหญ่ ปลายงุ้ม
- หลังแก้ไข : ปรับโครงสร้างแก้ไขฮัมพ์สูง แก้สันโก่ง แก้ไขจมูกงุ้ม ให้ปลายเชิดขึ้น
เสริมจมูก ราคาเท่าไหร่
ราคาเสริมจมูก ราคาแก้จมูก มีตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักแสน โดยราคาเสริมจมูกของทางคลินิก มีราคาเริ่มต้นดังนี้
เสริมจมูก | ราคา |
เสริมจมูกเทคนิคปิด + เนื้อเยื่อกระดูกเทียม | 𝟐𝟗,𝟗𝟎𝟎 บาท |
เสริมจมูกจมูกกระดูกอ่อน เนื้อเยื่อหลังหู | 𝟑𝟓,𝟎𝟎𝟎 บาท |
แก้เทคนิคปิดพิเศษ รองปลายกระดูกอ่อนหลังหู | 𝟰𝟵,𝟬𝟬𝟬 บาท |
เสริมจมูกแบบโอเพ่น ปรับโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูก | เริ่มต้น 𝟕𝟗,𝟎𝟎𝟎 บาท |
เสริมจมูกราคาเท่าไหร่? จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งคุณหมอแซมจะมาอธิบายให้เข้าใจ ดังนี้
- ราคาเสริมจมูก ขึ้นอยู่กับซิลิโคนที่ใช้ มีตั้งแต่เกรดต่ำกว่ามาตรฐาน เกรดมาตรฐาน ไปจนถึงเกรดพรีเมียม แน่นอนว่ายิ่งเกรดสูงยิ่งราคาแพง
- วัสดุที่เลือกใช้ส่วนอื่น ๆ การรองปลาย มาจากอวัยวะของตัวเอง เช่น รองปลายด้วยเนื้อเยื่อหลังหู รองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เป็นต้น
- ปัญหาจมูกของคนไข้ หลายเคสไม่สามารถเสริมแบบเทคนิคปิด (Close) ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องโครงสร้าง ต้องแก้และแก้ไขด้วยเทคนิค Open เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกโดยตรง
- สถานที่ คลินิก ต้องได้มาตรฐาน มีใบอนุญาต คุณหมอมีความน่าเชื่อถือ มากประสบการณ์
- รูปทรงจมูกที่ต้องการ ซึ่งปัจจุบันนิยมสโลปปลายพุ่ง สโลปปลายเชิดเป็นทรงที่นิยม ไม่ตกเทรนด์
ปัญหาทรงจมูกที่พบบ่อย
ปัญหาเรื่องทรงจมูกเป็นปัญหาที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วชาวเอเชียจะมีจมูกลักษณะที่เล็กและแบน ทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ รวมถึงปัญหาฐานจมูกที่ใหญ่เกินหัวตาทำให้จมูกดูบานไม่สวยงาม
ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยการเสริมจมูก ทำให้จมูกที่แบน หรือใหญ่ เป็นจมูกที่เรียว เล็ก และโด่ง ให้ใบหน้าดูมีมิติสมส่วนขึ้น
1. เสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Structural Reconstructive Rhinoplasty / Open technique)
การทำจมูกด้วยวิธีนี้เป็นที่นิยมมากของศัลยแพทย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในฝรั่ง คนยุโรปจะมีจมูกโด่งมากกว่าคนเอเชีย ที่มักมาพร้อมกับปัญหากระดูกฮัมพ์นูน จมูกงุ้ม ฐานจมูกคดเอียง หรือปลายจมูกโด่งเกินไป
นอกจากนี้ยังนิยมในเกาหลี เพราะเทคนิคโอเพ่นสามารถปรับโครงสร้างที่ดีกว่าเทคนิคปิด ทำให้ได้ทรงจมูกที่สวยงามตามต้องการ
การแก้จมูกแบบโอเพ่นจะมีการเปิดแผลในรูจมูกทั้งสองข้าง และบริเวณกึ่งกลางรูจมูก เป็นแผลขีดเล็กๆประมาณครึ่งเซนติเมตร เพื่อให้สามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกและทำการแก้ไขทรงจมูกได้ดียิ่งขึ้น
โดยทั่วไป การผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นมักแทบจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แต่แลกมากับความยากและซับซ้อนกว่า
ดังนั้นคนไข้จึงควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในด้านนี้โดยตรงเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดพลาดขณะผ่าตัด
และสำหรับการเสริมจมูกเทคนิค Open ที่ We Clinic จะใช้ซิลิโคนเป็นลักษณะรูปตัว L คลุมไปบนฐานโครงสร้างที่คุณหมอยืดผนังกั้นจมูก เพิ่มความแข็งแรง ส่วนปลายซิลิโคนจะมีการคลุมด้วยเนื้อเยื่อตัวเองอีกชั้น เพื่อให้ดูละมุนเป็นธรรมชาติ เพิ่มเนื้อปลาย ช่วยลดปัญหาการเห็นขอบหรือรอยต่อ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมจมูกเทคนิคเปิด : เสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Recon) คืออะไร อันตรายไหม กี่เดือนเข้าที่ 2025
2. เสริมจมูกเทคนิคปิดด้วยซิลิโคน หรือวัสดุอื่นที่คล้ายกัน (Augmentation Rhinoplasty / Closed technique)
เทคนิคการเสริมดั้งแบบนี้เหมาะกับการเติมสันจมูกหรือเติมปลายจมูก และสามารถทำได้ในกรณีที่จมูกไม่มีปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน
โดยการเสริมจมูกแบบปิดเป็นการผ่าตัดเล็ก มักใช้เวลาในการผ่าตัดราว 30-60 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย เรียกว่าสวยไว เจ็บตัวน้อย ราคาถูก จึงเป็นที่นิยมมากในบ้านเรา
โดยคุณหมอจะใช้เทคนิคปิดพิเศษ Advance closed Technique ด้วยการเปิดแผลสองข้างซ้ายขวาของรูจมูกทุกเคสเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังนิยมนำกระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อไขมันมารองบริเวณปลายจมูก เพื่อเพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อจมูก พร้อมลดความเสี่ยงจมูกทะลุ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมจมูกแบบปิด : เสริมจมูกแบบปิด (close) คืออะไร ข้อดีข้อเสีย ต่างกับ Open อย่างไร เลือกแบบไหนดีที่สุด
3 สิ่งที่ต้องรู้ ! แก้จมูกยังไงให้ปัง ครั้งเดียวจบ
สาวๆคนไหนที่เคยทำจมูกมาแล้วบ้ง แล้วกำลังมองหาที่แก้จมูกในกรงเทพอยู่ ? รับรองได้เลยว่าแก้จมูกที่ WE Clinic สวยถูกอกถูกใจสาวๆแน่นอน
จมูกสวยโด่งเป็นธรรมชาติทุกเคส คุณหมอแซมที่ WE Clinic มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานและมีเชี่ยวชาญสูง
คุณหมอแซมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจมูกอย่างแท้จริง สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
สาวๆเลิกกังวลเรื่องแก้จมูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปได้เลย การันตีว่าจะเป็นการแก้จมูกครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของสาวๆอย่างแน่นอน
ก่อนจะแก้จมูกต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้จมูกของสาวๆมีปัญหาแบบไหน เพื่อที่จะได้ใช้วิธีแก้จมูกให้เหมาะสม
- ปัญหาจมูกไม่ตรง : แก้โดยการตะไบทำให้ฐานเรียบขึ้น
- ปัญหาจมูกไม่เรียว : แก้โดยการเจาะและตอกฐานจมูก
- ปัญหาจมูกไม่พุ่ง : แก้โดยการใช้เทคนิค Open ปรับโครงสร้างจากภายในให้รูปทรงจมูกเปลี่ยน ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก แก้จมูกแบบไหน แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับคุณหมอแซมคุณหมอดาก่อน ที่ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรมโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แนะนำบทความเกี่ยวกับการแก้จมูก
เสริมจมูกเทคนิคเปิดมาแล้วสามารถแก้เป็นเทคนิคปิดได้ไหม
หากเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิดมาก่อน แนะนำว่าควรแก้ไขด้วยเทคนิคเปิดเช่นเดิม เนื่องจากการเสริมจมูกแบบเปิดจะทำการปรับโครงสร้างของจมูกเดิมไปค่อนข้างมาก
หากทำการแก้ด้วยการเสริมจมูกแบบปิดทางแพทย์อาจจะไม่ทราบว่ามีโครงสร้างจมูกส่วนใดที่ได้รับการแก้ไขไปแล้วบ้าง และการใส่ซิลิโคนเข้ามาเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่ช่วยให้ได้ทรงจมูกใหม่ที่สวยได้ตามที่ต้องการ ทางที่ดีควรแก้จมูกแบบเปิด เพื่อให้แพทย์ดูโครงสร้างและเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ได้ทรงจมูกตามที่ต้องการ
ซิลิโคนทั้งหมดมีกี่ประเภท
หากต้องการเสริมจมูก ควรจะเลือกใช้ซิลิโคนแบบไหนดี ให้เป๊ะปัง ดั้งโด่ง มักเป็นคำถามยอดนิยมที่คนไข้มักหยิบยกขึ้นมาถามศัลยแพทย์ก่อนการตัดสินใจ
เพราะหากเคยลองสอบถามจากหลายคลินิกก็มักจะให้คำตอบที่แตกต่างกัน และมักเชียร์ซิลิโคนที่คลินิกนั้น ๆ นำมาใช้ เช่น ซิลิโคนแมนทิส
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ในปัจจุบันซิลิโคนมีมากมายหลายรูปแบบ หลัก ๆ คือ ซิลิโคนอเมริกา ซิลิโคนเกาหลี และ ซิลิโคนญี่ปุ่น มีทั้งแบบนิ่มและแบบแข็ง
ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมแตกต่างกันไป รวมถึงราคาของซิลิโคนแต่ละประเทศก็ความแตกต่างกันด้วย จึงจำเป็นต้องศึกษาให้ดี ก่อนตัดสินใจ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิลิโคนจมูก : ซิลิโคนแต่ละแบบ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร อยากสวยต้องอ่าน
การเสริมด้วยกระดูกอ่อนของเราเอง
นอกจากการเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนแล้ว ปัจจุบันยังนิยมเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนจากตัวคนไข้เองมากขึ้น
ซึ่งตำแหน่งที่แพทย์นิยมนำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับทำจมูกมี 3 ตำแหน่ง ได้แก่
1.กระดูกอ่อนหลังใบหู
เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูเป็นตำแหน่งที่นิยมใช้มาก การผ่าตัดนี้จะนำกระดูกอ่อนออกมาจากเบ้าในใบหู โดยไม่ทำให้รูปทรงของใบหูเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งตัวกระดูกอ่อนหลังหูจะมีความโค้งงอเล็กน้อย เหมาะแก่การนำมาใส่รองไว้บริเวณปลายจมูก เพื่อเพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อจมูก และป้องกันซิลิโคนสัมผัสกับผิวปลายจมูกโดยตรง เป็นวิธีที่ช่วยเรื่องความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของจมูกทะลุได้
2.กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septum)
กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกจะอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางรูจมูกของทั้งสองข้าง โดยการนำส่วนนี้มาใช้จะต้องทำการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยเทคนิคเปิด เพื่อนำกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septum) มาปรับวางตำแหน่งเสริมให้โครงสร้างยาวและแข็งแรงมากขึ้น มีข้อดีคือการผ่าตัดทั้งหมดรวมอยู่กับการเปิดจมูกครั้งเดียว ไม่ต้องมีแผลผ่าตัดที่ตำแหน่งอื่นอีก การใช้กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกเหมาะกับคนไข้ที่โครงสร้างจมูกไม่แข็งแรง ปลายจมูกงุ้ม ไม่โด่ง ไม่พุ่ง
3.กระดูกอ่อนซี่โครง
การนำกระดูกอ่อนซี่โครงมาใช้เสริมจมูกเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่แพทย์หลายคนเลือกใช้ โดยจะต้องทำการเปิดแผลใต้ราวนมยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร เพื่อผ่าตัดเลาะเอากระดูกซี่โครงอ่อนขนาดประมาณ 3-5 ซม. ออกมาใช้เป็นวัสดุเสริมจมูก สำหรับเทคนิคนี้ ต้องผ่าตัดด้วยการดมยาสลบ ทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง และใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนาน
เลือกทรงจมูกอย่างไร ให้เหมาะกับใบหน้า
รูปทรงจมูกสวยมีหลากหลายแบบ เช่น จมูกทรงบาร์บี้ แมนทิส ทรงจมูกเกาหลี เจ้าหญิง แต่ทรงที่ค่อนข้างได้รับความนิยมคือ “จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง”ทรงนี้จะช่วยให้หน้าดูหวานขึ้น และทำให้ดูเด็กลง เป็นทรงที่นิยมอย่างมากในหมู่ดาราไทยและเกาหลี เหมาะกับคนที่มีปัญหาดั้งจมูกไม่โด่งหรือไม่สมส่วน
อีกทรงหนึ่งที่ฮิตไม่แพ้กันก็คือ “จมูกทรงสโลปเชิด” อีกหนึ่งทรงจมูกมาแรง สาวสายฝอลุคอินเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ จมูกทรงโลปปลายเชิดจะคล้ายกับจมูกของสาวๆฟากยุโรป
จมูกทรงโลปปลายเชิดคือการตกแต่งปลายจมูกให้ดูเชิดขึ้นตามความเหมาะสมของรูปหน้า ทำแล้วจะเสริมลุคให้ดูเฉี่ยวคม สำหรับใครที่อยากสวยเฉี่ยว เฟียส อินเนอร์พุ่ง ทรงนี้คือที่สุด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรงจมูก : รวม 10 ทรงจมูกธรรมชาติ เหมาะกับคนไทย ทรงไหนฮิตในปี 2025
แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าใบหน้าของทุกคนจะเหมาะกับทรงจมูกแบบที่ดารานักร้องชอบทำไปเสียทั้งหมด เพราะแต่ละคนมีโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกัน เช่น บางคนเนื้อจมูกน้อย ปีกจมูกกว้าง จมูกมีฮัมพ์ ซึ่งทรงจมูกบางทรงคนหนึ่งทำแล้วสวย แต่อีกคนทำแล้วไม่สวยก็มี ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกทรงจมูกที่ใช่ แนะนำให้คิดอย่างรอบคอบและขอคำปรึกษาจากศัลยแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด
ไม่ชอบรูปทรงจมูกหลังทำต้องรอกี่เดือนถึงจะแก้ทรงใหม่ได้
หลายคนที่พลาดทำจมูกตามคนอื่นแล้วทรงจมูกดันไม่เข้ากับใบหน้าเรา อยากจะแก้จมูกต้องรอนานไหม? โดยปกติแล้วจะต้องรอให้เนื้อเยื่อและเส้นเลือดในจมูกสมานตัวกันเสียก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไปถึงจะสามารถแก้จมูกรอบใหม่ได้
สิ่งสำคัญมาก ๆ ก่อนที่จะทำการผ่าตัดเสริมจมูก คือควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าคุณมีโรคประจำตัว แพ้ยา หรือทานยาตัวใดอยู่บ้าง โดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน เพื่อให้ศัลยแพทย์ทราบประวัติและวางแผนการผ่าตัดอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพของตนเองให้พร้อม เช่น
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดรับประทานทานอาหารประเภทของหมักดอง
- งดอาหารทะเล
- งดทานวิตามินทุกชนิดก่อนการผ่าตัด เสริมจมูก
- งดแต่งหน้า และควรสระผมก่อนให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
- รับประทานอาหารก่อนมาผ่าตัดได้ ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
การปฏิบัติตัวหลังจากการผ่าตัดแก้จมูก มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังศัลยกรรมจมูกแล้ว ยังช่วยให้แผลผ่าตัดหายไว พร้อมสวยเร็วขึ้น ดังนั้นคนไข้ควรศึกษารายละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาให้ได้มากที่สุด
- ช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ให้ประคบเย็นบริเวณหน้าแต่หลีกเลี่ยงบริเวณแผล เพื่อช่วยเพื่อให้เลือดหยุดไหลและยุบบวมไวขึ้น นอกจากนี้ควรนอนศีรษะสูงเพื่อให้เลือดไม่คั่งในโพรงจมูก
- หากมีเลือดไหลออกมานั้นภายใน 1-2 วันหลังจากที่ได้เข้ารับการผ่าตัด ให้ใช้ไม้พันหรือสำสีชุบน้ำเกลือเช็ดออกเบา ๆ พร้อมป้ายยาฆ่าเชื้อตามที่คลินิกจัดให้
- หลัง 72 ชั่วโมง แผลจะเริ่มปิดสนิท สามารถประคบอุ่นเพื่อลดรอยม่วง เขียว ช้ำได้ แต่ควรจะระมัดระวังไม่กระทบบริเวณจมูก
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหยุดการสูบบุหรี่ในช่วง 1เดือน เพราะมีผลต่อการสมานแผล
- ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหนัก เนื่องจากเนื้อจมูกยังไม่แข็งแรง
ในช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัดเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ที่ We Clinic จะมีใบคำแนะนำการดูแลตนเอง เช่น ควรระมัดระมัดระวังการกดทับกระทบกระแทกที่บริเวณจมูก และควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังเสริมจมูก : หลังเสริมจมูก ดูแลตนเองอย่างไรให้ จมูกสวย ปลอดภัย
เสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง
หลังเสริมจมูกไปแล้ว กินอะไรได้บ้าง? มีอาหารอะไรที่กินแล้วแสลง
ทำให้แผลหายช้าหรือไม่? คุณหมอขอแนะนำว่าหลังเสริมจมูกไปแล้ว สามารถทานสิ่งเหล่านี้ได้
- หมู เนื้อ ปลาน้ำจืด ไก่ ไข่
- กาแฟ
- ผักทุกชนิด
- ผลไม้ทานได้ทุกชนิด ยกเว้น ผลไม้ร้อน เช่น ทุเรียน งดไปก่อน
- ต้องบอกว่าหลังทำ สามารถทานได้เกือบทุกเมนู ยกเว้นแค่อาหารแสลงไม่กี่ชนิด เช่น ของหมักดอง ของสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล แอลกฮอล์ เป็นต้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่สามารถกินหลังทำจมูก : เสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง รวมสิ่งที่กินได้และควรหลีกเลี่ยงหลังทำจมูก
แผลเสริมจมูกกี่วันเข้าที่ กี่วันหายบวม
เสริมจมูกมาแล้ว แน่นอนว่าต้องมีแผลหลังผ่าตัดแน่นอน แต่แผลเสริมจมูกกี่วันจะเข้าที่ จะได้วางแผนลางาน ได้หลังผ่าตัด คำตอบคือแผลจะเริ่มดีขึ้นหลังวันที่ 7
โดยแพทย์จะให้คนไข้ดามจมูกไว้ 7 วัน แล้วค่อยถอดเฝือกออก แต่ระหว่างที่ดามเฝือกไว้ คนไข้สามารถทำความสะอาดล้างแผลด้วยตัวเอง เช้า-เย็น จนกว่าจะตัดไหม
หลังจากวันที่ 7 แผลจะเริ่มแห้งแล้ว รอยแผลก็จะค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ หลังจากตัดไหม สามารถทายาลดรอยแผลเป็นเช้า-เย็น เพื่อช่วยลดรอยผ่าตัดได้
อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังแก้จมูก และมักจะเกิดขึ้นในช่วง 7 วันแรก
- เลือดออกจมูก อาจเป็นเลือดแดงซึม หรือก้อนเลือดแข็งติด รวมถึงบ้วนปากแล้วอาจมีเลือดลงคอ
- ใต้ตาบวมช้ำ หรืออาจใบหน้าบวมขึ้นได้
- การยุบบวมสองข้างจะไม่เท่ากัน อาจทำให้จมูกดูเบี้ยว ไม่ต้องกังวล มันจะค่อยๆดีขึ้น
- อาจมีอาการบวมบริเวณหัวตา ทำให้สันจมูกดูสูงกว่าที่คาดหวังไว้ ไม่ต้องกังวล มันจะค่อยๆยุบสวยธรรมชาติ
- อาจรู้สึกอึดอัดจมูก และตึงบริเวณแผลผ่าตัด มากกว่า3เดือน เนื่องจากเนื้อเยื่อในโพรงจมูกยังบวม
- ระยะเวลาที่จมูกเข้าที่ ประมาณ 3-6 เดือน
ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ
คนไข้สามารถดูแลตนเองได้ตามคำแนะนำที่แพทย์แจ้งหลังผ่าตัดเสริมจมูก แล้วอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการที่มักเกิดขึ้นหลังเสริมจมูก : 12 อาการหลังเสริมจมูกมีอะไรบ้าง เช็กให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจทำ
เสริมจมูกที่ไหนดี
การเลือกเสริมจมูกที่ไหนดี ไม่ใช่ทำที่ไหนก็ได้ เราต้องดูและศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจเสมอ ไม่ใช่เห็นแค่เพียงเฉพาะของถูก และของแถมเท่านั้น ต้องเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และเลือกคุณหมอที่สามารถแก้ไขปัญหาของเราได้
ซึ่งหากคุณมีแพลนจะทำจมูกเร็ว ๆ นี้ และกำลังพิจารณาอยู่ว่าเสริมจมูกที่ไหนดี ที่ We Clinic เป็นอีกหนึ่งคลินิกที่คุณสามารถไว้วางใจได้ เพราะ
- คลินิกได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
- คุณหมอมีประสบการณ์มากกว่า 7 ปี
- หลังทำจมูกมีนัดติดตามตามผล และประกันผลลัพธ์หลังทำ 1 ปีเต็ม
- คลินิกเดินทางสะดวก ติดBTS อารย์ มีที่จอดรถ
- สามารถนัดปรึกษาและนัดทำล่วงหน้าได้ รีวิวจากคนไข้จริงทุกเคส Service Care 24 ชม.
We Clinic ให้บริการศัลยกรรมเสริมความงามมามากกว่า 10,000 เคส ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าการผ่าตัดจะเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกเคสเราใส่ใจคนไข้ทั้งก่อนทำ หลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัยที่สุด และหากสาวๆคนไหนกำลังมองหาที่เสริมจมูกในกรุงเทพอยู่ บอกเลยว่า We Clinic ตอบโจทย์ ! เรื่องเสริมจมูกต้องยกให้คุณหมอแซมและคุณหมอดา WE Clinic
ทำความรู้จักทีมแพทย์จาก We Clinic ได้ที่ : weclinicbkk.com/doctor-weclinic
รีวิวเสริมจมูก
ทรงที่นิยมตอนนี้ จะเป็น เสริมจมูก ทรงสโลปปลายพุ่ง ด้วยเทคนิคยืดผนังกั้นจมูก จะทำให้ปลายจมูกดูพุ่งเชิดขึ้นจากโครงสร้าง
และเสริมแต่งซิลิโคนตามความจำเป็น ทำให้จมูกที่ทำออกมารับกับใบหน้า หน้าผาก และคาง ทั้งสายเกา สายฝ.
อยากได้ทรงไหน สามารถนำแบบมาให้คุณหมอได้ เนื่องจากเทคนิค Open หรือ Nose Reconstruction
เป็นการปรับโครงสร้างจมูกให้เป็นไปในแบบที่ต้องการ เป็นเทคนิคที่ทำออกมาใกล้เคียงแบบที่อยากได้มากที่สุด
ทรงที่นิยมในขณะนี้จะเป็นจมูกทรงสโลปปลายพุ่งด้วยเทคนิคยืดผนังกั้นจมูก ที่ทำให้ปลายจมูกดูพุ่งเชิดขึ้นจากโครงสร้าง และเสริมแต่งซิลิโคนตามความจำเป็น ทำให้จมูกที่ทำออกมารับกับใบหน้า หน้าผาก และคาง เหมาะกับทั้งสายเกา สายฝอ
แต่ไม่ว่าคุณอยากได้ทรงไหน สามารถนำแบบมาให้คุณหมอพิจารณาได้ เนื่องจากเทคนิค Open หรือ Nose Reconstruction สามารถปรับโครงสร้างจมูกให้เป็นไปในแบบที่ต้องการ สามารถทำออกมาใกล้เคียงแบบที่อยากได้มากที่สุด
อ่านรีวิวเสริมจมูกฉบับเต็ม : รวมรีวิวเสริมจมูก รีวิวทำจมูก สวยเกินคุ้ม เข้ากับรูปหน้า เป็นธรรมชาติ
คำถามการเสริมจมูกที่พบเจอบ่อยๆ
Q : เสริมจมูกเจ็บไหม
A : ก่อนทำหัตถการเสริมจมูกจะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ และมีการให้ยานอนหลับสำหรับการผ่าตัดแบบ Open ทำให้ระหว่างผ่าตัดเสริมจมูกจะไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด แต่หลังจากยาชาเฉพาะที่หมดฤทธิ์อาจมีอาการเจ็บปวดแผลหลังผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดให้รับประทานเพื่อลดอาการปวด
Q : จมูกโต เนื้อเยอะ จมูกชมพู่ ควรเสริมจมูกเทคนิคไหนดี
A : สำหรับเคสจมูกชมพู่ที่มีปัญหาจมูกโต เนื้อเยอะ ต้องทำการลดขนาดจมูก เพื่อให้เรียวสวย สามารถใช้การผ่าตัดแบบเทคนิค Open เพื่อเข้าไปปรับแก้ไขโครงสร้างจมูกข้างในโดยตรง
Q : เสริมจมูกแล้วอยู่ถาวรไหม
A : การเสริมจมูก เป็นการเสริมแบบถาวร ถ้าในอนาคตไม่มีปัญหา หรือไม่อยากเปลี่ยนทรงเพื่อตามเทรนด์ ก็สามารถอยู่กับเราถาวรโดยไม่ต้องแก้ไข
Q : เสริมจมูกใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน
A : หลังเสริมจมูกจะใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็ก แต่หลังการผ่าตัดเสร็จ ต้องเข้ามาฉีดยาปฏิชีวนะติดต่อกันอีก 2 วัน และมีนัดตัดไหมในวันที่ 7 และวันที่ 14 ระหว่างนี้อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ และคนไข้สามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติ
Q : เคยฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหมควรแก้จมูกเทคนิคอะไร
เพื่อทรงจมูกที่สวยที่สุดแบบไม่ต้องแก้บ่อย แนะนำให้ทำการแก้จมูกด้วยเทคนิคแบบเปิดหรือโอเพ่น (Open Reconstruction) เพื่อขูดเลาะสารฟิลเลอร์ที่เหลือออกให้มากที่สุด รวมถึงทำการปรับแต่งโครงสร้างจมูกเดิมให้ได้ทรงจมูกตามที่ต้องการในทีเดียว
Q : อยากแก้จมูก จำเป็นต้องถอดพักไหม หรือสามารถแก้ไขได้เลย
A : สำหรับเคสที่เคยเสริมมาแล้ว หากไม่มีปัญหา ทะลุ อักเสบ ติดเชื้อ สามารถทำการแก้ไขแล้วเสริมใหม่ได้เลยโดยไม่ต้องพักเนื้อ ส่วนเคสที่มีปัญหาผิวจริง ๆ ที่ต้องพักเนื้อ จะต้องถอดออกก่อน เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรง จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก่อน แล้วค่อยทำการเสริมใหม่ได้