อยากเสริมจมูก ทำจมูกให้สวยปลายพุ่ง แต่กลัวผลข้างเคียงอย่าง ‘จมูกทะลุ’ ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ แถมยังอันตรายจนถึงขั้นเสียโฉมได้ และเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลายคนต้องกลับมาแก้จมูกบ่อย นอกเหนือจากอาการจมูกเบี้ยว จมูกอักเสบ และอาการอื่นๆ อีกมากมาย (อ่านอาการหลังเสริมจมูกที่คุณอาจพบได้ที่ 12 อาการหลังเสริมจมูกมีอะไรบ้าง เช็กให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจทำ)
แต่จะทำยังไงเมื่อเกิดเหตุการณ์จมูกทะลุขึ้น จะรักษาอย่างไร หรือมีวิธีป้องกันหรือไม่ บทความนี้ We Clinic รวบรวมคำตอบที่คุณสงสัยมาให้เรียบร้อยแล้ว เพื่อช่วยให้คนไข้มีข้อมูลในการทำจมูก และหายกังวลจากผลข้างเคียงนี้มากขึ้น
จมูกทะลุ เกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการจมูกทะลุหลังจากทำการเสริมจมูกไปแล้ว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน คือ
- ใส่ซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม สาเหตุหลักมักเกิดจากการใส่ซิลิโคนที่มีขนาดไม่เหมาะสม เช่น ยาวเกินไป, แหลมเกินไป, หนาเกินไป เป็นต้น ซึ่งเป็นการฝืนเนื้อมากเกินไป ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีเนื้อจมูกน้อย เมื่อเสริมจมูกที่มีปลายพุ่งมากเกินไป จนทำให้ตัวซิลิโคนไปกดเนื้อบริเวณนั้นทำให้ขาดเลือดมาเลี้ยง ผิวตรงบริเวณที่ถูกกดนั้นจึงเหมือนขาดอาหารทำให้เบางลงเรื่อยๆ บางถึงจุดหนึ่งก็จะทะลุออกมาได้ สำหรับใครที่สงสัยว่าตนเอง เนื้อจมูกน้อย รึเปล่า หาข้อมูลได้ที่ เสริมจมูกเนื้อน้อย จมูกสั้น เสริมยังไงให้สวยปัง ทรงจมูกพุ่งสวย สมใจ?
- ใส่ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน สำหรับใครที่เน้นทำจมูกราคาถูก หรือไม่ได้ทำการตรวจสอบคลินิกที่ทำให้ดีก่อน อาจเกิดอาการจมูกทะลุได้จากการที่แพทย์ใช้ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน ผลิตจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ยืดหยุ่น หรือเป็นซิลิโคนปลอมได้
- แก้จมูกติดกันบ่อยๆ หรือซิลิโคนที่อยู่ภายในถูกรบกวน บางคนอาจเคยทำจมูกมาแล้ว แต่ ทรงจมูก ไม่ถูกใจ จึงจำเป็นต้องแก้จมูกแบบแก้แล้ว แก้อีก ซึ่งจริงๆ แล้วการแก้ไขจมูกจากเดิมต้องรออย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปจึงสามารถผ่าตัดแก้จมูกได้ เพราะถ้าแก้เลยหลังเสริมใหม่ภายในไม่กี่เดือนจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การอักเสบและแผลจะเย็บไม่ติดกันได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงพฤติกรรมที่ชอบแคะ แกะ เกาจมูกอยู่บ่อยๆ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จมูกทะลุได้เช่นกัน
- การอักเสบและการติดเชื้อ การอักเสบและการติดเชื้อหลังจากการเสริมจมูก หากติดเชื้อไม่รุนแรง จะมีอาการบวมยุบแบบไม่คงที่ อาจมีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลออกจากด้านในจมูกหรือรอยแผลผ่าตัด ร่วมกับมีอาการบวมแดงและปวด ส่วนจมูกติดเชื้ออย่างรุนแรง สีผิวหนังจมูกกลายเป็นสีดำ ซิลิโคนกินเนื้อจมูก ทำให้เนื้อยุบ จมูกเน่า จมูกทะลุ จมูกหลุดตามมาได้
- การวางตำแหน่งของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม หากทำการวางตำแหน่งของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดการเบี้ยว เอียง ทำให้มีแรงกดต่อเนื้อเยื่อในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ จนเกิดการทะลุได้ในที่สุด
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของ ซิลิโคนจมูก มี่แบบ เลือกแบบไหนดี
อันตรายจากจมูกทะลุ
อาการจมูกทะลุค่อนข้างอันตรายมากหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากสามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ เนื่องจากจมูกทะลุสามารถนำไปสู่การอักเสบติดเชื้อในโพรงจมูก เชื้อโรคต่างๆ จากภายนอกจะสามารถเข้าไปในโพรงจมูกได้มากขึ้นทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เมื่อมีการอักเสบจากการทะลุมากขึ้น อาการอาจจะรุนแรงถึงขั้นสามารถติดเชื้อเข้ากระแสเลือดได้ จึงควรรีบรักษาให้ทันท่วงที ไม่ควรปล่อยเอาไว้นาน
อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีดูแลตนเองศัลยกรรมจมูกได้ที่ หลังเสริมจมูก ดูแลตนเองอย่างไร ให้จมูกสวยปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอาการจมูกทะลุ
อาการจมูกทะลุ ดูยังไง
สำหรับใครที่เสริมจมูกมาแล้ว หรือเตรียมตัวจะทำจมูกในอนาคต แต่กังวลว่าจมูกที่ทำมาจะเกิดอาการทะลุหรือไม่ วันนี้ We Clinic มีวิธีการสังเกตตัวเองง่ายๆ มาฝาก
- สังเกตบริเวณปลายจมูก โดยบริเวณปลายจมูกมักมีอาการผิดปกติที่คุณสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ทั้งหมด 3 อาการ คือ
- ผิวที่ปลายจมูกบาง จมูกจะมีความมันวาวมากกว่าปกติ จมูกสะท้อนแสงได้ หรือมีสีขาวๆ ใสๆ ในบางเคสสามารถมองเห็นรูปทรงซิลิโคนได้เลย
- เนื้อที่ปลายจมูกแดงมากขึ้น คือ สีผิวบริเวณปลายจมูกแตกต่างไปจากเดิม โดยอาจมีสีขาวซีด แดง หรือดำคล้ำ ดูแล้วไม่เสมอกันกับส่วนอื่นของใบหน้า
- เป็นสิวที่ปลายจมูก โดยเฉพาะเป็นสิวหัวช้าง ซึ่งไม่ว่าจะทานยาไปเท่าไหร่ก็ไม่หาย ไม่มีการยุบ แถมยังเกิดการอักเสบลุกลามทำให้เนื้อเยื่อที่หุ้มซิลิโคนเสริมจมูกเกิดอาการอักเสบ และติดเชื้อได้ ซึ่งการอักเสบนี้จะส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณจมูกบางลง เป็นสาเหตุทำให้ซิลิโคนทะลุได้
- ใช้มือลูบที่ปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียว นั่นอาจหมายถึงผิวบริเวณจมูกของคุณเริ่มบางแล้ว
- จมูกเริ่มยาวและงุ้มลงกว่าเดิม ซึ่งอาจเกิดจากการที่ซิลิโคนเริ่มเคลื่อนที่ลงมา ( Migration ) และนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้จมูกทะลุได้
- จมูกเริ่มมีร่องหรือรอยบุ๋ม หากทำการเสริมจมูกมาเป็นเวลานาน แล้วจมูกเริ่มมีร่อง มีรอยบุ๋มต่างๆ บนตำแหน่งต่างๆ ของจมูก ควรจะไปให้ศัลยแพทย์ตรวจสอบทันที เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจมูกกำลังจะทะลุได้
- มีซิลิโคนทะลุออกมา บางทีจมูกทะลุก็อาจไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ นอกจากซิลิโคนจะทะลุออกมาให้เห็นแล้ว โดยคุณจะสังเกตเห็นปลายขา ๆ ของซิลิโคนที่ปลายจมูกได้เลย
จมูกทะลุ ทำยังไง แก้ได้ไหม
หากพบว่ามีอาการที่บ่งบอกว่าจมูกทะลุ หรือพบว่า จมูกมีซิลิโคนทะลุออกมาแล้ว ห้ามทำการดึงออกเองเด็ดขาด เพราะจะทำให้งานแก้จมูกทำได้ยากมากขึ้น แนะนำให้เข้าพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและให้การรักษาโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องการผิดรูปได้มากที่สุด
โดยในเบื้องต้นอาจรับประทานยาแก้อักเสบเพื่อลดการอาการบวมหรืออักเสบบริเวณจมูก ทั้งนี้ในการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของแต่ละคนว่ามีอาการอักเสบมากน้อยขนาดไหน หากมีอาการอักเสบหรือติดเชื้อก็จำเป็นต้องนำซิลิโคนที่เสริมออกและพักไว้ 6 เดือน หรือตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ เพื่อรักษาอาการอักเสบติดเชื้อให้หายขาดก่อนทำการเสริมใหม่ แต่ในกรณีที่จมูกไม่มีอาการอักเสบติดเชื้อก็สามารถเปลี่ยนใส่ซิลิโคนที่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกได้ทันที
วิธีการรักษาจมูกทะลุ
หากในกรณีที่แก้จมูกช่วงที่ปลายยังแดง แต่ยังไม่ถึงขั้นทะลุ จะสามารถทำการแก้แล้วใส่ซิลิโคนใหม่โดยทำการแก้ไขทรงให้เหมาะสมกับความยืดหยุ่นของเนื้อจมูกคนไข้ แต่ไม่ควรทิ้งไว้นานจนปลายจมูกเป็นสีม่วง ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เสียโฉมหรือจมูกผิดรูปได้เพราะเนื้อตาย และแพทย์ไม่สามารถรักษาเนื้อบริเวณนั้นไว้ได้ทัน โดยขั้นตอนการรักษาจะเป็นดังต่อไปนี้
- แพทย์จะทำการผ่าตัดนำซิลิโคนเดิมออก หลังจากนั้นคนไข้จะต้องทำการพักฟื้น เพื่อรอปรับสภาพของเนื้อจมูกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ต้องเข้าใจก่อนว่าที่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นเพราะเนื้อบริเวณจมูกจะยังไม่แข็งแรง จึงไม่สามารถใส่ซิลิโคนหรืออุปกรณ์ตกแต่งจมูกได้ในทันที
- หลังจากพักฟื้นจนดีขึ้นตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำแล้ว แพทย์จะสามารถทำการผ่าตัดแก้ไขจมูกได้ โดยการนำกระดูกอ่อนหลังหูหรือเนื้อเยื่อหลังหูมารองที่บริเวณปลายจมูก เพื่อเพิ่มความหนาลดความเสี่ยงจมูกทะลุ แล้วใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไป แต่อาจจะต้องลดขนาดความโด่งพุ่งของจมูกลงให้พอดีกับสภาพของเนื้อจมูกของคนไข้
ส่วนในเคสที่จมูกทะลุแล้ว และมีเนื้อตายปริมาณมาก แพทย์อาจจะต้องย้ายเนื้อจากบริเวณอื่นมาแทน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถผ่าตัดได้ครั้งเดียวจบ ต้องทำการตัดแต่งผ่าตัดหลายครั้งและยังคงเหลือรอยแผลเป็นทิ้งเอาไว้อีกด้วย
วิธีป้องกันและดูแลไม่ให้จมูกทะลุ
จะเสริมจมูกทั้งที คงไม่อยากให้มีเคสแก้ หรือเกิดการทะลุ ให้ต้องเสียทั้งเงิน เวลา และต้องมาเจ็บตัวซ้ำ ดังนั้นจึงควรศึกษาและเรียนรู้วิธีป้องกันรวมถึงดูแลไม่ให้เกิดเคสจมูกทะลุขึ้น โดยแพทย์ของ We Clinic แนะนำข้อควรรู้มาให้ ดังนี้
- หาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่ต้องการทำจมูกให้ครบถ้วน ดูว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ มีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูกหรือไม่ รวมถึงมีรีวิวให้ดูถึงเทคนิคและฝีมือของหมอ โดยคุณหมอได้รวบรวม วิธีเลือกคลินิกไว้ที่ เสริมจมูกที่ไหนดี ทำจมูกสวยปัง ดั้งพุ่ง เป็นธรรมชาติ ไม่แก้บ่อย 2022
- ซิลิโคนที่ใช้จะต้องเป็นมีคุณภาพ ตามมาตรฐานการศัลยกรรมสากล แม้อาจจะมีราคาที่สูงกว่าปกติเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นการเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง
- เข้ารับคำปรึกษาและการประเมินจมูกอย่างละเอียดจากแพทย์ก่อนผ่าตัด โดยแพทย์จะต้องทำการเหลาปรับแต่งซิลิโคนให้เหมาะสมกับคนไข้ทุกครั้ง และไม่ใส่ซิลิโคนที่ฝืนเนื้อเดิมของคนไข้
- ควรเลือกทำจมูกกับคลินิกที่มีบริการให้คำแนะนำหลังทำ เมื่อเกิดปัญหาจะได้แก้ไขอย่างทันเวลา
ส่วนการดูแลตัวเองควรทำความสะอาดแผลหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงทำการประคบเย็น และรับประทานยาให้ครบ รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่ส่งผลต่อแผล โดยต้องงดอย่างน้อย 1 เดือน
หรืออ่านข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการศัลยกรรมจมูก เพิ่มเติม
จมูกทะลุเจ็บไหม
เนื่องจากซิลิโคนที่กดบริเวณที่ทะลุมาเป็นเวลานาน จะทำให้เลือดมาเลี้ยงน้อยลง ผิวที่จมูกบางลงและเส้นประสาทรับความรู้สึกก็จะหายไปด้วย ทำให้เวลาที่จมูกทะลุนั้นคนไข้จะไม่เจ็บในตำแหน่งที่มีการทะลุของซิลิโคน แต่ก่อนหน้านั้นมักจะมีอาการบวมแดง อักเสบ หรือติดเชื้อมาก่อน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นก่อนได้ และไม่ควรปล่อยไว้จนถึงขั้นจมูกทะลุในภายหลัง
สรุป
เมื่อจมูกเกิดการทะลุของซิลิโคน จะเกิดช่องทางติดต่อระหว่างสิ่งแวดล้อมภายนอกกับเนื้อเยื่อภายในจมูก ทำให้มีโอกาสเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ ทางที่ดีที่สุดคือ เลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่น่าเชื่อถือที่สามารถรับรองความปลอดภัยและให้คำปรึกษาหลังการทำศัลยกรรมจมูกได้ มีการติดตามดูแล ทั้งก่อนและหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงหลังจากทำจมูกที่อาจขึ้นได้ในทุกกรณี
สุดท้ายนี้ หากกำลังมองหาคลินิกเสริมจมูกที่ได้รับการรับรอง มองหาทีมแพทย์ที่น่าเชื่อถือ พร้อมผลงานหรือรีวิวทั้งเคสรับเสริมจมูกและแก้จมูก We clinic คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ