ผ่าดึงหน้า คืออะไร เริ่มต้นควรรู้อะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้กี่ปี

อยากกลับมาหน้ากระชับเหมือนย้อนวัย ต้องรู้จักกับ ‘การดึงหน้า’ เพราะการศัลยกรรมดึงหน้าเป็นวิธีการที่ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า และแก้ผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับที่เห็นผลได้ดี ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีเทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัย และปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และฟื้นตัวเร็วมากขึ้นอีกด้วย 

ดังนั้น ใครที่สนใจอยากจะดึงแก้มห้อย ปรับใบหน้าให้กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง มาทำความรู้จักกับวิธีและเทคนิคการดึงหน้าจาก We Clinic แบบละเอียดจากบทความนี้ได้เลย

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ดึงหน้า คืออะไร

ดึงหน้า คือ หัตถการที่ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันบริเวณใบหน้า ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการหย่อนคล้อยของผิวหนังตามวัยให้กลับไปยังตำแหน่งเดิมที่เหมาะสม โดยการดึงหน้าจะทำการตัดผิวหนังที่มีการหย่อนคล้อยออก แล้วเก็บยกผิวหนังขึ้นทั้งชั้นผิวหนัง และชั้นกล้ามเนื้อ SMAS หรือกล้ามเนื้อบางๆ ชั้นใต้ผิวหนังที่ใช้ในการแสดงอารมณ์ให้กระชับมากขึ้น และเริ่มดึงจากส่วนบนอย่างหน้าผาก ใบหน้าส่วนบน หางตา แก้ม แน่นอนว่า การดึงหน้าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าการทำหัตถการอื่นๆ 


การผ่าตัดดึงหน้ามีกี่เทคนิค

เทคนิคดึงหน้าบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ

เทคนิคการดึงหน้าบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ จะเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ซับซ้อนใช้ความชำนาญและความละเอียดของแพทย์สูง เพราะเป็นการดึงหน้าที่ผิวหนังชั้น SMAS (Superficial muscular aponeurotic system) ร่วมด้วย ซึ่งการผ่าตัดจากบริเวณชั้นกล้ามเนื้อเช่นนี้จะให้ผลดีกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบชั้นตื้น หรือเทคนิคการทำให้ใบหน้าดูกระชับอื่นๆ เพราะวิธีการดึงหน้าบริเวณชั้นกล้ามเนื้อจะเป็นการเลาะและทำการดึงในชั้นลึกที่อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อชั้นตื้นของใบหน้า (SMAS Layer) พร้อมทำการผ่าตัดเปลี่ยน จุดเกาะเอ็นยึดใบหน้าใหม่ให้กระชับมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูกระชับ ลดแรงตึงของแผล ซ่อนแผลได้สวย เสี่ยงเกิดคีลอยด์น้อย ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานหลายปีเลยทีเดียว

ร้อยไหมดึงหน้า

การร้อยไหมดึงหน้าจะเป็นการยกกระชับใบหน้าใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูกระชับ และลดปัญหาเรื่องอาการหย่อนคล้อยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการร้อยไหมดึงหน้าหลังทำจะเห็นผลได้ทันที แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า เนื่องจากผิวมีโอกาสหลุดออกจากเส้นไหมที่เกี่ยวไว้ได้ก่อน และในคนที่อายุเยอะๆ ใช้วิธีนี้ผลที่ได้จะอยู่ได้สั้นลง เพราะในผิวขาด elastin นั่นเอง

เลเซอร์ยกกระชับ

การเลเซอร์ยกกระชับหน้าเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เพื่อยิงลงไปยังจุดเฉพาะต่างๆ ใต้ชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์ผิว ทำให้ผิวสร้างคอลลาเจน ใบหน้าจึงดูยกกระชับ เรียว และมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์ แต่ควรทำปีละ 1-2 ครั้ง จึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่าอยู่ได้นานขึ้น


ทำไมต้องดึงหน้า

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็มักจะเป็นเรื่องของความหย่อนคล้อยของผิวหนังที่เกิดจากร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงทำให้ความยืดหยุ่นของผิวมีคุณภาพลดลง ผิวจึงมีอาการหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่น ไม่กระชับ จนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ รวมถึงเกิดปัญหาบางอย่าง เช่น การที่ผิวหนังทำให้รบกวนการมองเห็น ฯลฯ ก็จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดดึงหน้าเข้ามาช่วย เพราะเป็นการแก้ไขปัญหานี้ได้ในระยะยาวกว่าการทำหัตถการอื่นๆ อีกทั้ง ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ทั้งหมด หรือจะเลือกทำเฉพาะจุดก็ได้เช่นเดียวกัน


ดึงหน้าเหมาะกับใคร

การดึงหน้าจะเหมาะกับทั้งผู้ที่มีอายุมาก ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมากๆ ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน และคงทน อีกทั้งไม่มีเวลาในการเข้ารับทำหัตถการอื่นบ่อยๆ ซึ่งการดึงหน้าจะช่วยปรับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับทั้งใบหน้าหรือเฉพาะจุดก็สามารถเลือกได้ (ทั้งนี้ ก็พิจารณาตามสภาพผิวและความหย่อนคล้อยของใบหน้า และความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัดร่วมกัน) ซึ่งก็นับว่าเหมาะกับทุกวัย แต่ในกลุ่มผู้สูงอายุนั้นจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด


ดึงหน้าส่วนไหนได้บ้าง

สำหรับการดึงหน้าจะสามารถยกกระชับส่วนต่างๆ บนใบหน้าไปได้หลายส่วนด้วยกัน โดยการดึงหน้าของ We Clinic จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนที่ดึงได้ และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ได้แก่ การดึงใบหน้าส่วนบนและหางตา ยกคิ้ว และการดึงใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง 

ดึงใบหน้าส่วนบนและหางตา ยกคิ้ว 

การดึงใบหน้าส่วนบนและหางตา พร้อมยกคิ้ว จะใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาตาเศร้า หางตาตก และปัญหาโหนกแก้มหย่อนคล้อย ซึ่งการดึงใบหน้าส่วนนี้ก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูยกกระชับมากขึ้น รอยตีนกาและริ้วรอยบริเวณหางตาลดลง ทำให้ใบหน้าส่วนบนดูตึงและอ่อนเยาว์ลงนั่นเอง

ดึงใบหน้าส่วนกลางเเละส่วนล่าง

การดึงใบหน้าส่วนกลางเเละส่วนล่างจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องร่องแก้มที่ดูลึกและปัญหาร่องน้ำหมากให้ดูตื้นและจางลงได้ ด้วยการทำให้ใบหน้าส่วนกลางและล่างดูตึงจากการถูกยกกระชับขึ้น ใบหน้าจึงดูเรียวเป็น V-shape มากขึ้นด้วย


เทคนิคการดึงหน้า

เทคนิคการดึงหน้าจะแบ่งออกไปตามส่วนต่างๆ ที่ต้องการจะดึง ดังนี้

เทคนิคการดึงขมับส่วนบนและหางตา 

การดึงใบหน้าส่วนบนและหางตา จะใช้เทคนิคการเปิดแผลผ่าตัดที่ไรผม ยกหางตา โดยจะเปิดแผลตรงขมับบริเวณไรผม แต่ละข้างยาว 3-4 ซม. เพื่อทำการตัดเลาะกล้ามเนื้อ ตัดผิวหนังส่วนเกิน และดึงยกหางคิ้วและหางตาขึ้น นอกจากนี้ก็จะทำการเย็บยกกระชับกล้ามเนื้อเพิ่มเติม จึงช่วยแก้ปัญหารอยตีนกาบริเวณหางตา ปัญหาคิ้วตก และช่วยให้รูปคิ้วดูโค้ง หางตาเฉี่ยว ใบหน้าส่วนบนดูยกขึ้น ใบหน้าจึงดูตึงและอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ

เทคนิคการดึงหน้าส่วนกลางและล่าง

จะแบ่งออกเป็น 2 เทคนิค คือ

  • การผ่าตัดแบบแผลเล็ก

การผ่าตัดแบบแผลเล็กจะเป็นเทคนิคการดึงหน้าส่วนกลางและล่างด้วยการเปิดแผลเล็กทั้ง 2 ข้างช่วงขมับลงมาถึงขอบหน้าหูส่วนบน และทำการเลาะชั้นใต้ผิวหนังส่วน SMAS ลงไปถึงประมาณใบหน้าส่วนล่าง เพื่อทำการดึงหน้ายกเก็บให้ผิวกระชับขึ้น แล้วนำผิวหนังส่วนเกินออก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มที่หย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย

  • การผ่าตัดแบบดึงทั้งหน้า

การผ่าตัดแบบดึงทั้งหน้าจะเป็นเทคนิคการดึงหน้าส่วนกลางและล่างด้วยการแผลทั้ง 2 ข้างที่หน้าหูและติ่งหู แล้วทำการผ่าตัดเลาะเนื้อเยื่อดึงผิวหนัง และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังไปจนถึงชั้น SMAS แล้วทำการตัดผิวหนังส่วนเกินออก ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยทั้งใบหน้า

ข้อดี-ข้อจำกัดของการดึงหน้า

ข้อดีของการดึงหน้า

  • การดึงหน้าช่วยลดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยในบริเวณใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์และลดริ้วรอยบริเวณแก้ม ริ้วรอยตา และริ้วรอยบนหน้าแบบเฉพาะจุดได้ด้วย
  • ช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามและยังคงดูธรรมชาติ โดยปรับรูปกรามและโครงสร้างใบหน้าให้ดูดีและสมส่วนมากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวที่อยู่ได้นาน ต่างจากการรักษาความหย่อนคล้อยด้วยวิธีอื่นๆ ที่อาจจะต้องมาทำบ่อยๆ 
  • ทำให้คนรู้สึกมั่นใจและมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลในด้านจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวัน

ข้อจำกัดของการดึงหน้า

ข้อจำกัดของการดึงหน้านั้นอาจจะเจอปัญหาและผลกระทบตามมาได้ หากทำการศัลยกรรมด้วยการดึงหน้ากับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญมากพอ เช่น ใบหน้าไม่กระชับเท่าที่ควรจากการดึงผิวหนังผิดชั้น, การติดเชื้อ, เกิดแผลเป็นรั้ง, ใบหน้าดูผิดรูปหรือไม่สมมาตร เป็นต้น ดังนั้น ต้องรับบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ ระยะเวลาของการพักฟื้นเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บและเพื่อสังเกตดูอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการพักฟื้นระยะหนึ่ง

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดดึงหน้า

  • ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจทำทุกครั้ง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาและให้คุณหมอช่วยประเมินและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดึงหน้าที่เหมาะสมสำหรับคุณ
  • หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เช่น ความดัน เบาหวาน ไทรอยด์ เพราะควรควบคุมโรคให้อยู่ในภาวะปกติให้ได้เสียก่อน และไม่ควรผ่าตัดในช่วงที่มีภาวะเจ็บป่วย หรือมีการติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่จะทำผ่าตัด ส่วนโรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น เลือดออกง่ายหยุดยาก นั้นจะอันตรายมากเมื่อทำการผ่าตัด จึงควรบอกแพทย์ให้ทราบก่อนตัดสินใจ
  • หากมีการรับประทานยาที่ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin ควรปรึกษาแพทย์ที่ให้ยาก่อนทุกครั้ง ส่วนยากอื่นๆ เช่น วิตามิน คอลลาเจน สมุนไพรต่างๆ ยาแก้ปวด เช่น Ibuprofen Diclofenac ควรงด 1 สัปดาห์ 
  • หากทำการผ่าตัดด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องงดอาหารและน้ำ ทานได้ตามปกติ แต่ควรทานมาในปริมาณที่พอเหมาะ
  • งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังทำการดึงหน้า
  • ควรสระผมก่อนมาทำการดึงหน้า
  • ไม่ควรแต่งหน้ามาในวันที่เข้ารับคำปรึกษาหรือในวันที่จะทำการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงหน้า

หลังจากที่ทำการผ่าตัดดึงหน้าแล้วจะมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรบ้างนั้น สามารถอ่านสรุปข้อปฏิบัติได้ตามหัวข้อด้านล่างนี้เลย

  • ในช่วง 48-72 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัดควรมีเวลาพัก เนื่องจากอาจมีการบวมและฟกช้ำตามมาได้ ในช่วงนี้จึงควรทำการประคบเย็นโดยประคบบริเวณรอบๆ แผลเพื่อลดอาการบวมช้ำ รวมถึงลดอาการเลือดออก และระมัดระวังอย่าให้น้ำโดนแผล ให้ทำต่อเนื่องไปประมาณ 3 วัน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนมาเป็นประคบเย็นแค่ช่วงกลางคืนต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • อย่าสัมผัสแผล ห้ามแผลโดนน้ำหรือกระแทกบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นเวลา 7 วัน
  • ควรทำความสะอาดแผลทุกวัน ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดที่แผลและบริเวณรอบๆ เพื่อกำจัดคราบที่เกรอะกรัง 
  • ใส่ที่ผ้ารัดหน้าหลังจากทำศัลยกรรมอย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อผยุงแผลจากภายนอก และหลังจากนั้นให้ ใช้ผ้ารัดเฉพาะบริเวณกลางคืนต่อเป็นเวลา 1 เดือน
  • เวลานอนให้นอนยกศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวมประมาณ 1 สัปดาห์
  • งดการยกของหนักช่วง 2-3 วันแรก
  • งดออกกำลังกายหนักที่ทำให้กระทบกระเทือนแผลไปประมาณ 2 สัปดาห์
  • แนะนำให้ทานอาหารอ่อน ๆ ในช่วงแรกเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน 
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง  อาหารทะเล วิตามิน อาหารไม่สุก อาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ในช่วงเดือนแรก
  • หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 3-6 เดือน เนื่องจากแผลผ่าตัดมักจะแดงและนูนเล็กน้อยในช่วง 1-3 เดือนแรก

ดึงหน้า ราคาเท่าไหร่

ราคาค่าใช้จ่ายในการดึงหน้านั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการจะยกกระชับ โดยราคาการดึงหน้าเฉพาะจุดที่ We clinic จะมีราคาเริ่มต้นที่ 89,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะช่วยกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลงเป็นสิบๆ ปี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องไปเพิ่มเติมการยกกระชับอื่นๆ อยู่ตลอด


ดึงหน้า รีวิว

สำหรับใครที่ต้องการดึงหน้า รีวิวที่ช่วยทำให้ตัดสินใจเลือกคลินิกนอกจากภาพช่วงก่อนทำ-หลังทำ และรีวิวจากประสบการณ์การทำจากคนไข้แล้ว อย่าลืมที่จะเลือกคลินิกที่สามารถไว้ใจได้ทั้งในด้านความสะอาด การบริการ คุณภาพของเครื่องมือ

รวมถึงคุณหมอเองก็ควรที่จะเป็นทีมคุณหมอที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมดึงหน้า ซึ่งคุณหมอของทาง We Clinic คือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ทำความรู้จักกับนายแพทย์ชุติธร จำเริญดารารัศมี (หมอป่าน) ได้ที่ https://weclinicbkk.com/dr-paan-weclinic/


คำถามที่พบบ่อย

หากดึงหน้าด้วยการผ่าตัด แผลอยู่ตรงไหนบ้าง

สำหรับแผลที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดดึงหน้าจะมีอยู่ด้วยกันหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น…

  • บริเวณไรผม
  • บริเวณขมับบริเวณไรผม
  • บริเวณหน้าหู
  • บริเวณหน้าหูตามร่องหูไปจนถึงบริเวณหลังหู

ซึ่งในแต่ละตำแหน่งนั้นคุณหมอจะทำการซ่อนแผลไว้ให้ รวมถึงใช้เทคนิคที่ช่วยทำให้เกิดแผลน้อยมากที่สุด 

ผลข้างเคียงของการดึงหน้า มีอะไรบ้าง

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยๆ จากการดึงหน้า เช่น

  • อาการชาที่หน้า: จะเป็นอาการที่พบได้บ่อยหลังจากที่ทำการดึงหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเลาะเนื้อเยื่อ แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามการหายของแผล ซึ่งปกติจะดีขึ้นในระยะเวลาประมาณ 2 เดือน แต่บริเวณหลังหูอาจหายช้าสุดใช้เวลา 2-3 เดือนขึ้นไป
  • แผลเป็น: ในบางบุคคลอาจเกิดแผลคีลอยด์ แผลนูนตามมาได้ และถ้ายิ่งดูแลแผลของผู้ป่วยภายหลังให้สะอาดไม่ดีพอ ซึ่งตรงนี้ก็คงต้องทำการรักษาต่อไปด้วยการฉีดยารักษาแผลคีลอยด์ หรือการใช้ยาทา
  • เลือดออก: จะมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น ความดันสูง การใช้ยาบางชนิด การผ่าตัดห้ามเลือดได้ไม่ดี ฯลฯ ซึ่งเรื่องนี้ป้องกันได้ด้วยการเลือกคลินิกดึงหน้าที่มีคุณภาพที่พร้อมให้บริการทั้งด้านการดูแลและการผ่าตัดด้วยคุณหมอที่มีประสบการณ์
  • ความบวมช้ำ: เนื่องจากเป็นการผ่าตัดทำให้อาจเกิดอาการบวมช้ำตามมาได้ แต่ถ้าดูแลตัวเองดีก็จะยุบบวมเร็วขึ้น

จะเริ่มเห็นผลลัพธ์กี่วันหลังดึงหน้า

ในช่วงแรกหลังจากทำการผ่าตัดดึงหน้าจะเห็นว่ายังมีอาการบวมช้ำประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ และอาการบวมจะหายไปใน 2 – 3 สัปดาห์ และจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ผลลัพธ์ของการดึงหน้าที่เห็นผลชัดเจนมากที่สุดจะเป็นช่วง 6-12 เดือนหลังจากทำไปแล้ว

ผลลัพธ์หลังดึงหน้าอยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์หลังดึงหน้าอยู่ได้นานไหมจะขึ้นอยู่กับสภาพของผิวแต่ละบุคคลและการดูแลตัวเองหลังทำการดึงหน้า ทำให้มีระยะเวลาของผลลัพธ์ที่แตกต่างกันได้ ซึ่งถ้าทำการดูแลผิวและร่างกายดีก็จะช่วยยืดอายุของผลลัพธ์ออกไปได้ แต่ถ้าเห็นว่าผิวหนังกลับมาหย่อนคล้อยอีกครั้งก็สามารถกลับมาทำการดึงหน้าซ้ำได้ด้วย โดยคุณหมอจะทำการประเมินให้ว่า ควรดึงหน้าให้ตึงสวยอย่างไรในช่วงผิวขณะนั้น เพื่อให้ใบหน้ายังดูสวย ธรรมชาติ และไม่เกิดผลเสียต่อแผลตามมา


สรุป

การผ่าตัดดึงหน้า คือ วิธีการที่ช่วยทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยไปตามอายุกลับมากระชับและดูเด็กลงอีกครั้ง ซึ่งสามารถทำได้ทั้งใบหน้าหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดที่มีการหย่อนคล้อยก็ได้ โดยการผ่าตัดดึงหน้านี้จะต้องให้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินและวางแผนการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

ดังนั้น หากคุณสนใจที่จะทำการดึงหน้าอย่างปลอดภัย และช่วยให้การทำศัลยกรรมในครั้งดีประสบความสำเร็จ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ของทาง We Clinic เพราะคุณหมอของเรายินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทักมานัดคิวหรือสอบถามกับเราโดยตรงที่ facebook หรือ Line เรายินดีตอบทุกคำถามและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ

ปรึกษา เสริมคาง เสริมจมูก ออนไลน์
Line chat facebook chat