ร้อยไหม คืออะไร ช่วยให้หน้าเรียว ดูเต่งตึง แบบไม่ต้องผ่าตัดได้ยังไง?

ร้อยไหม คืออะไร ช่วยให้หน้าเรียว ดูเต่งตึง แบบไม่ต้องผ่าตัดได้ยังไง

สำหรับใครที่อยากมีใบหน้าเรียว และกระชับ แบบไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บหนักจนต้องพักฟื้น เรามีอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ดี แถมมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ซึ่งเทคนิคนี้เรารู้จักกันดีในชื่อ ‘การร้อยไหม’

ว่าแต่จะร้อยยังไง ดีกว่าการทำศัลยกรรมแค่ไหน ทำแล้วอันตรายหรือไม่ วันนี้ We Clinic จะมาตอบทุกข้อสงสัยที่ทุกคนกังวลเกี่ยวกับการร้อยไหมประเภทต่างๆ ใครที่อยากเก็บเหนียงและความหย่อนคล้อยของใบหน้าให้หมดไป แถมดูหน้าเด็กกว่าวัยทันทีหลังการทำ ห้ามพลาดเลยล่ะ!

เลือกหัวข้ออ่านที่ต้องการ

ร้อยไหมคืออะไร

การร้อยไหม (Thread lift) คือนวัตกรรมเสริมความงามด้วยการยกกระชับใบหน้า โดยใช้เส้นไหมที่สลายได้เองใส่เข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง และใช้เงี่ยงของเส้นไหมละลายนั้นในการเกี่ยวผิวหนังขึ้นมาตามทิศทางที่ทำการร้อยไหมเข้าไป ทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูเปล่งปลั่งขึ้น มีริ้วรอยลดลงได้ในระยะเวลาอันสั้น

นอกจากนี้ตะขอบนเส้นไหมเกี่ยวเนื้อเยื่อด้านในยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย

ใครบ้างที่ควรร้อยไหม

เพราะการร้อยไหม เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเหมาะสมกับทุกคน ดังนั้น มาดูกันดีกว่าว่า ใครที่เหมาะจะทำการร้อยไหมบ้าง

  • ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น เพราะ
  • ถ้าหากผิวหนังหย่อนมากอาจจะต้องใช้วิธีนี้ร่วมกับวิธีอื่นๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดู V-Shape และไม่ต้องการเสียเวลาพักฟื้น หรือเจ็บตัวจากการศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อปรับโครงหน้า
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย กรอบหน้าไม่ชัดเจน แก้มพอง และมีกระเปาะที่แก้ม
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาแก้มตอบ แต่ไม่ต้องการเติมฟิลเลอร์

ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่าเคสของคุณเอง เหมาะหรือไม่เหมาะกับการร้อยไหม สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ We clinic เพื่อประเมินและวิเคราะห์ปัญหาก่อนรับบริการได้เลย

ร้อยไหมตำแหน่งไหนได้บ้าง

นอกจากการร้อยไหมดึงหน้าแล้ว คุณยังสามารถร้อยไหมในส่วนอื่นๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็น…

  • ร้อยไหมคิ้ว
  • ร้อยไหมแก้ม
  • ร้อยไหมมุมปาก
  • ร้อยไหมคาง
  • ร้อยไหมคอ
  • ร้อยไหมบริเวณท้องแขน
  • ร้อยไหมต้นขา
  • ร้อยไหมจมูก
  • ร้อยไหมหน้าผาก

ชนิดของเส้นไหม

ชนิดของเส้นไหมที่แพทย์นำมาใช้ในการยกหน้าให้กระชับมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่เราจะขอยกชนิดไหมยอดนิยมมาทั้งหมด 3 แบบ เพื่อให้คุณได้ทำความรู้จักกัน ได้แก่

เส้นไหมเรียบ

เส้นไหมเรียบ หรือเส้นไหม PDO จะมีลักษณะของเส้นไหมเป็นเส้นสั้นๆ ยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร และไม่มีเงี่ยงแยกออกมา ส่วนใหญ่จะใช้บริเวณคอ หน้าผาก และใต้ตา

  • ข้อดี ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนได้ มีโอกาสแพ้น้อยมาก
  • ข้อเสีย ไม่สามารถช่วยดึงหรือยกกระชับผิวได้ ปัจจุบันจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก

เส้นไหมเกลียว

เส้นไหมเกลียว จะมีลักษณะของเส้นไหมคล้ายกันกับเส้นไหม PDO เเต่จะเป็นรูปแบบนำไหมเรียบมารวมกัน 2 เส้นแล้วบิดเป็นเกลียว

  • ข้อดี การขดตัวของไหมช่วยสร้างแรงดึงที่เพิ่มขึ้นกว่าเส้นไหมเรียบ และช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณที่ผิวหนังยุบตัวหรือเป็นแอ่ง
  • ข้อเสีย ไม่เหมาะกับการยกกระชับใบหน้าและมักมีปัญหาเรื่องรอยช้ำหลังร้อยไหม

เส้นไหมที่มีเงี่ยง

เส้นไหมที่มีเงี่ยง หรือไหมก้างปลา จะมีลักษณะเส้นไหมที่มีเงี่ยงยื่นออกมา แบ่งออกเป็น ไหมเงี่ยงเส้นใหญ่ และไหมเงี่ยงเส้นเล็ก

  • ข้อดี ทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างในการยกกระชับผิวหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างบริเวณรอบเส้นไหมและรอบเงี่ยงได้ง่าย จึงเป็นประเภทไหมที่เหมาะจะใช้ยกกระชับบนใบหน้า มักนิยมใช้เพื่อปรับใบหน้าให้เรียว และยกกระชับบริเวณคาง
  • ข้อเสีย ไหมก้างปลาเป็นเข็มปลายแหลม หากเป็นคนผิวช้ำง่าย อาจเกิดรอยเขียวช้ำหลังการทำ

ร้อยไหมอะไรดีที่สุด

การร้อยไหมที่ดีที่สุด คือการร้อยไหมที่สามารถแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้แพทย์จะทำการวิเคราะห์รูปหน้าให้ เพื่อดูว่ามีจุดไหนสามารถแก้ไขด้วยการร้อยไหมได้บ้าง เช่น หากคุณต้องการยกกระชับใบหน้า ให้ใบหน้าได้รูป V-Shape ก็แนะนำเป็นเส้นไหมแบบก้างปลา ฯลฯ นอกจากนี้ก็ควรจะเลือกไหมที่ใช้วัสดุคุณภาพ ซึ่งโดยปกติแล้วจะนิยมใช้อยู่ด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้

  • ไหมที่ทำจาก PDO เป็นไหมที่ยืดหยุ่นสูง อ่อนนิ่ม ไม่หักง่าย ใช้แล้วไม่รู้สึกระคายเคือง แต่ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้น
  • ไหมที่ทำจาก PLLA เป็นไหมที่มีความแข็งจึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ว่าเปราะแตกง่ายเลยไม่เป็นที่นิยมมากนัก
  • ไหมที่ทำจาก PCL เป็นไหมที่มีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสมขึ้น จึงเป็นวัสดุไหมที่ดี และอยู่ได้ถึง 1 ปี

ชนิดของเข็มในการร้อยไหม

เข็มที่ใช้ในการร้อยไหมจะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบโดยเข็มแต่ละชนิดจะมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ได้แก่

เข็มแหลม

เป็นเข็มไหมที่นำมาใช้เป็นชนิดแรกๆ เลยก็ว่าได้ มีลักษณะที่เหมือนกับมีดคมที่ใช้ตัดผ่านเนื้อทำให้เกิดอาการบวมน้ำน้อย เจ็บน้อย ร้อยง่าย สมานแผลไวกว่าการใช้เข็มทู่ แต่ถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่ก็มีโอกาสบวมเลือด หรือถ้าโดนเนื้อเยื่อต่างๆ ก็มีโอกาสเขียวช้ำได้ง่าย เวลาใช้จึงควรใช้โดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น

เข็มทู่

มีหลากหลายแบบ เช่น เข็มทู่ทรง L Type, เข็มทู่ทรง W Type เป็นเข็มที่เหมือนกับมีดทื่อๆ ที่ใช้ในการตัดผ่านเนื้อโดยการฉีกออก จะทำให้เกิดอาการบวมน้ำมากกว่า เเละมีโอกาสเจ็บมากกว่าด้วย

เข็มตัด

เป็นเข็มกึ่งแหลมกึ่งทู่ บริเวณปลายมีลักษณะคล้ายกับหลอด มีความคมแต่ว่าไม่แหลมเท่ากับเข็มแหลม

เข็ม L

เป็นเข็มที่พัฒนามาจากเข็มตัดอีกทีหนึ่ง

การทำงานของการร้อยไหม

ใครที่สงสัยว่า ทำไมการร้อยไหมถึงช่วยให้หน้าเรียว เรามาดูหลักการทำงานนี้กันดีกว่า

การร้อยไหม เป็นการใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากมาร้อยกันเป็นเครือข่ายที่มีมิติ โดยปรับให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่ต้องการ โดยหลังจากทำการร้อยไหมไปแล้วบริเวณใต้ผิวหนังที่ร้อยไหมจะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน (Collagen) ให้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และจะพันอยู่บริเวณรอบแนวเส้นไหมและเงี่ยงของเส้นไหม

ซึ่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนนี้ส่งผลทำให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ผิวหน้าจึงดูเต่งตึงและกระชับขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้มาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ร้อยไหม อันตรายไหม

หากเลือกคลินิกที่มีใบรับรองตามมาตรฐานและทำหัตถการด้วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ รวมถึงเลือกใช้ไหมที่เหมาะสมกับรูปหน้าและได้มาตรฐาน แน่นอนว่า การร้อยไหมจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน เพราะโดยปกติแล้ว ไหมที่นำมาใช้จะสลายหายไปเองในระยะเวลา 6-12 เดือน จึงไม่ต้องกังวลว่า จะมีสารตกค้างที่คงอยู่แบบถาวร

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังร้อยไหม

สำหรับอาการข้างเคียงนั้นจะขอแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่

  • ผลข้างเคียงแบบปกติที่เกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวม เขียว ช้ำ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7-14 วัน, อาการเลือดออกบริเวณรูร้อยไหม, ความรู้สึกตึงๆ และรู้สึกถึงการมีอยู่ของไหมบนใบหน้า เป็นต้น
  • ผลข้างเคียงที่อันตราย เนื่องจากร้อยไหมกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเกิดจากการทำกิจกรรมที่ควรระวังเป็นอย่างมาก เช่น อาการติดเชื้อ ไหมทะลุ ไหมขาด การอักเสบของเนื้อเยื่อ ฯลฯ ดังนั้น เวลาเลือกคลินิกจึงควรตรวจสอบไหมที่ใช้ให้ดี และหลังการร้อยไหมไปแล้วควรปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

เพิ่มความมั่นใจให้กับการร้อยไหมครั้งแรก ด้วยการเตรียมตัวก่อนร้อยไหมด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ดังนี้

  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การร้อยไหมจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลเรา ดังนั้นจึงควรเลือกทำในคลินิกที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษา อย่าง We Clinic ก็จะมีบริการให้คำแนะนำจากแพทย์ พร้อมทำการวิเคราะห์รูปหน้า เพื่อดูปัญหาและทำการแก้ไขอย่างละเอียดก่อนการร้อยไหมเสมอ
  2. งดกิจวัตรบางอย่างที่เคยทำ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด, การออกกำลังกายด้วยการทำ Cardio , การเข้าซาวน่า ที่ทำให้เลือดสูบฉีด เป็นต้น
  3. งดรับประทานยาบางชนิด ก่อนทำการร้อยไหม 3-7 วัน ให้งดยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ หรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน, วิตามิน แต่ถ้าหาเป็นยาที่ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนว่าสามารถหยุดรับประทานยาตัวนั้นได้หรือไม่ เพื่อลดโอกาสเลือดออกเยอะในขณะร้อยไหม
  4. อาจต้องทำหัตถการอื่นร่วม สำหรับใครที่แก้มเยอะ อาจจะต้องทำการฉีดสลายไขมันที่แก้ม หรือทำการฉีดเมโสแฟตร่วมด้วย (จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับรูปหน้า) ก่อน ไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้ผลลัพธ์จากการร้อยไหมที่ชัดเจนเท่าที่ควร
  5. ทำทันตกรรมให้เรียบร้อย หากมีนัดทำฟันควรทำให้เสร็จก่อนมาร้อยไหม เพราะหลังจากร้อยเสร็จแล้วจะต้องงดอ้าปากกว้างเป็นเวลา 4 สัปดาห์

ขั้นตอนการร้อยไหม

ปกติแล้วการร้อยไหมจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยมีขั้นตอนและวิธีการทำ ดังต่อไปนี้

  1. วิเคราะห์รูปหน้า เริ่มต้นจากการประเมินใบหน้าก่อนทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะทำการออกแบบและวางตำแหน่งการร้อยไหมให้เหมาะกับแต่ละบุคคลให้มากที่สุด มีการแนะนำเส้นไหมที่ใช้ รวมไปถึงแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาบนใบหน้าบางจุดที่คนไข้ต้องการด้วย เช่น คนมีแก้มเยอะต้องฉีดเมโสแฟตเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ใบหน้าเรียวสมใจ เป็นต้น
  2. ทำความสะอาดใบหน้า หลังจากวิเคราะห์ใบหน้าเสร็จ แพทย์จะให้คุณนอนราบ และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าเช็ดจนทั่วบริเวณที่ต้องการ
  3. โปะยาชา สำหรับใครที่กลัวเจ็บไม่ต้องกังวลใจไป เพราะแพทย์จะทำการแปะยาชาให้ตามตำแหน่งที่จะทำการร้อยไหม โดยจะทำการรอประมาณ 30-45 นาทีก่อนการลงมือทำ (ส่วนในคนไข้ที่ผิวแพ้ง่ายหรือแพ้ยาชาชนิดทาแพทย์จะทำการประคบเย็นหรือฉีดยาชาเข้าใต้ผิวหนังให้แทน)
  4. ทำการร้อยไหม ขั้นตอนนี้แพทย์จะทำการนำเส้นไหมสอดเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้เทคนิคการร้อยไหมแบบเป็นมิติตามความเหมาะสมของรูปหน้า เพื่อช่วยพยุงผิวหนัง แก้ปัญหาที่คนไข้มี และทำให้หน้าเรียวขึ้นได้ด้วยไหมที่สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ ตอนทำรับรองว่าไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจจะรู้สึกตึงๆ เท่านั้น
  5. ตัดไหม เมื่อแพทย์ทำการดึงปรับแนวไหมจนเรียบร้อยแล้ว จะทำการตัดปลายไหม จะทำโดยไม่ให้เห็นเส้นไหมหรือปมไหม หลังจากนั้นทำการปิดรูไหมให้เรียบร้อย
  6. ประคบเย็น หลังจากร้อยเสร็จแล้วแพทย์จะทำการประคบเย็นให้ทันที เพื่อลดอาการบวม หลังจากนั้นสามารถกลับบ้านได้เลย

การปฏิบัติตัวหลังร้อยไหม

การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนี่คือวิธีที่จะทำให้ผลลัพธ์ของการร้อยไหมออกมาสวยและได้รูปที่สุด คุณจึงควรปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้

  • หลังทำเสร็จจะต้องประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเป็นเวลา 3 วัน เพื่อลดอาการบวมและอาการระบมหลังร้อยไหมได้
  • ห้ามแตะ เกา กด นวด และการสัมผัสบนใบหน้าเป็นเวลา 1-2 วัน
    แผลบริเวณข้างขมับควรงดโดนน้ำ 2 วัน
    หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อน เช่น การเล่นกีฬากลางแจ้ง, การอบซาวน่า เป็นต้น
  • งดการแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
  • งดยิงเลเซอร์หรือการเสริมความงามอื่นๆ ที่ใช้ความร้อนลงผิวชั้นลึก เป็นระยะเวลา 1-2 เดือน เพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่น อาการบวม ปวด หรือช้ำที่จะตามมา
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • รับประทานยาแก้อักเสบตามที่แพทย์จัดให้
  • ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 4 สัปดาห์หลังทำ เพราะไหมยังมีโอกาสเคลื่อนได้อยู่
  • ไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ในบริเวณที่ร้อยไหมเป็นระยะเวลา 2 เดือน
  • ควรงดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์ เนื่องจากบริเวณรอยร้อยไหมอาจโดนเหงื่อและทำให้อาการบวมยุบช้าลง

ร้อยไหมแล้วหน้าบวมเกิดจากอะไร

เกิดได้จาก 4 สาเหตุหลัก ได้แก่

  • การบวมเลือดหรือน้ำ โดยจะเป็นอาการที่มีเลือดออกในชั้นผิว หรือมีน้ำคั่งในชั้นผิวจากอาการอักเสบ ซึ่งจะหายไปเองในระยะ 2-3 สัปดาห์
  • มีเนื้อแก้มเยอะ หากเป็นในกรณีที่คนไข้มีเนื้อแก้มมาก หากทำการร้อยไหมเลยอาจทำให้หน้าบวมได้ (กินเวลา 2-3 เดือนเลยทีเดียว กว่าไหมจะคลายแล้วถึงจะดีขึ้น) ส่วนใหญ่ถ้ามีแก้มมากแบบนี้ แพทย์จะแนะนำให้ทำการฉีดเมโสแฟต เพื่อลดแก้มให้น้อยลงก่อน
  • ทำการดึงหรือร้อยไหมผิดแนว หากทำการดึงร่องแก้มแทนที่จะทำการแก้ไขความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มใกล้ๆ มุมปาก ก็จะทำให้หน้าดูบวมได้ เนื่องจากยิ่งไปทำให้โหนกแก้มมีเนื้อเยอะมากขึ้น ดังนั้น ในขั้นตอนการร้อยไหมจึงควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันเรื่องผิดพลาดและได้ใบหน้าเรียวตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องมาแก้ไขให้กลุ้มใจ
  • เกิดการอักเสบและติดเชื้อ หากเป็นอาการบวมปกติจะยุบลงใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าหลังจาก 4 วันแล้วยังคงบวมแดงไม่หาย ควรรีบไปกับแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

ร้อยไหมทำไมจึงสลายเร็ว

สำหรับบางคนทำการร้อยไหมมาแล้วกลับอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น เป็นเพราะอะไร? เรามีคำตอบ

  1. เป็นเรื่องของสภาพผิว ถ้าหากผิวขาดคอลลาเจนมากๆ การเกาะของผิวกับเงี่ยงไหมจะน้อยลงทำให้ไหมอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
  2. ชนิดของเส้นไหมจะมีระยะเวลาประคองผิวได้นานแตกต่างกัน หากต้องการผลลัพธ์ที่อยู่นานขึ้นก็ควรจะรู้จักกับประเภทไหมและระยะเวลาการทำงาน เช่น ไหมก้างปลา จะประคองผิวได้นานประมาณ 6 – 8 เดือน เป็นต้น
  3. ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะการแสดงสีหน้าจะเป็นสิ่งสำคัญหลังการร้อยไหม เพราะถ้าหากขยับสีหน้าแรงก็อาจจะทำให้ไหมตกเร็วได้

ร้อยไหมที่ไหนดี

แม้จะหาข้อมูลหรือรีวิวอ่านมากแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือโดยดูได้จากการมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดอยู่ที่หน้าคลินิก มีรีวิวที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถประเมินใบหน้า วิเคราะห์โครงหน้า เลือกชนิดของไหมแท้มีคุณภาพ จำนวนของเส้นไหม
รวมถึงมีเทคนิคในการวางตำแหน่งร้อยไหมที่ถูกต้องนอกจากนี้จะต้องเป็นคลินิกที่พร้อมให้คำปรึกษาทั้งก่อนทำและหลังทำอย่างเต็มที่เสมอจึงจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า จะได้รับบริการที่ปลอดภัยมากที่สุด

ร้อยไหม ราคาเท่าไหร่

สำหรับราคาร้อยไหมหน้าเรียวจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ขึ้นอยู่กับวัสดุในการใช้ผลิตเส้นไหม ขนาด ประเภท ทั้งในด้านความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และความคงทนของเส้นไหมด้วย ซึ่งคุณสามารถทำการสอบถามกับทางคลินิกได้โดยตรง

สนใจสอบถามราคาร้อยไหมกับทาง We Clinic ติดต่อมาหาเราโดยตรงได้เลยที่ facebook หรือ Line

คำถามที่พบบ่อย

ร้อยไหมเจ็บไหม

โดยปกติแล้วก่อนจะทำการร้อยไหมแพทย์จะทำการฉีดหรือทายาชาให้ก่อน ดังนั้น จึงจะเจ็บแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น ส่วนระหว่างร้อยไหมจะรู้สึกตึงๆ เล็กน้อยเท่านั้น

ร้อยไหมกี่วันเห็นผล กี่วันเข้าที่

ในช่วง 3-4 วันแรกจะมีอาการบวมอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 14 วัน อาการบวมนั้นจะเริ่มเข้าที่ และจะเข้ารูปแบบชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน ส่วนระยะของไหมจะขึ้นอยู่กับประเภทของไหมที่ใช้เป็นหลัก

ร้อยไหมแล้วหน้าไม่เท่ากันเกิดจากอะไร

ในช่วงแรกหลังจากทำการร้อยไหมเสร็จ ในบางเคสอาจทำให้หน้าไม่เท่ากัน เนื่องจาก Collagens ที่กำลังสร้างขึ้น และการยกกระชับ รวมถึงการเซ็ตตัวของไหมรวมกับเนื้อเยื่ออาจไม่ได้เกิดเท่ากันทั้งสองข้าง อาจต้องรอเวลาสักพักเพื่อให้ไหมเซ็ตตัวและเข้าที่

นอกจากนี้อาจจะเกิดจากปัจจัยภายนอกได้ เช่น ร้อนไหมในจำนวนที่น้อยเกินไป แพทย์ที่ทำไม่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า จึงทำให้ใช้เทคนิค กำหนดทิศทาง แรงดึง ร้อยไหมได้ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการใช้ไหมที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้เกิดการเปราะ กรอบ หัก เมื่อร้อยไหมไปก็ย่อมไม่เห็นผล เป็นต้น

ร้อยไหมกี่วันหายบวม

หลังจากร้อยไหมเสร็จอาจมีอาการบวมเข็มหรือเกิดรอยช้ำเกิดขึ้น ไม่ต้องตกใจไปเพราะเป็นเรื่องปกติ แนะนำให้รับประทานยาแก้อักเสบประมาณ 3 วัน หรือประคบเย็น 1-2 วัน อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งอาการบวมเริ่มยุบลง และเข้าที่ได้ใน 14 วัน

ยกเว้นในกรณีที่มีอาการบวมแดงมาก ปวด หรือรอยช้ำไม่หายไป แนะนำให้รีบกลับมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับยาเพิ่มเติมทันที

ร้อยไหมแล้วไปนวดหน้าได้ไหม

หลังจากทำการร้อยไหมแล้วไม่ควรนวดหน้า ล้างหน้าแรงๆ ในจำแหน่งที่ร้อยไหม หรือขยับใบหน้ามากจนเกินไป เนื่องจากไหมจะใช้เวลาเซ็ตตัวเข้ากับผิวประมาณ 4 สัปดาห์ ไม่เช่นนั้นไหมอาจจะเคลื่อนที่ไปมาได้ ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุณจะต้องดูแลอย่างระมัดระวังในช่วงแรกมากเป็นพิเศษ

การร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาที่หลายคนกลุ้มใจทั้งหน้าหย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย ทำให้ดูไม่สดใส โดยไม่ต้องผ่าตัด แถมยังเห็นผลทันที แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ารับบริการร้อยไหมได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาจนแน่ใจแล้วว่า นี่คือวิธีการที่เหมาะสมกับคุณเองมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแต่ละเคส และเป็นที่พึงพอใจของคุณอย่างแท้จริง

สนใจเข้ารับการประเมินและวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ก่อนการร้อยไหมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ We clinic ของเรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อแก้ปัญหาให้คุณแล้ว ติดต่อเรามาได้เลยที่ facebook หรือ Line ของเราโดยตรง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Line chat facebook chat