เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความรีวิวนี้ อาจจะเคยมีประสบการณ์แบบเดียวกับมิว… เคยทำปากกระจับมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่หวัง
หรือบางคนอาจเคยผิดหวังจนไม่กล้าทำอะไรกับปากอีกเลย หรือไม่รู้จะเริ่มยังไงดี มิวเองก็ใช้เวลาหลายปี กว่าจะตัดสินใจแก้ปากกระจับใหม่
มิวเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์จริง เผื่อจะเป็นกำลังใจและแนวทางให้กับใครที่กำลังลังเลหรือกำลังมืดแปดด้านอยู่นะคะ
รีวิวทำปากกระจับครั้งแรก เจอปัญหาอะไรบ้าง?
จริง ๆ ปัญหานี้สะสมมาตั้งแต่ 7 ปีก่อนค่ะ… ตอนนั้นมิวเคยทำปากกระจับมาแล้ว 1 รอบ ด้วยความหวังว่าจะได้ปากที่สวย ดูหวานละมุนขึ้น
แต่พอแผลหายกลับพบว่าปากไม่เท่ากันตลอดแนวปากเลย เริ่มตั้งแต่ติ่งกระจับที่เอียง เพราะว่าโดนพังผืดดึงรั้ง ส่งผลให้ตอนฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้ว มันเลยดึงปากไปอีกข้างนึง
และตรงช่วงมุมปาก จะมีความไม่เท่ากันตลอดแนว รูปปากก็ยังคงดูหนา ไม่ได้เป็นทรงปากกระจับที่สวยละมุนอย่างที่ตั้งใจไว้เลยค่ะ
ไม่ว่าจะตอนแต่งหน้า ถ่ายรูป หรือแม้แต่เวลายิ้มกับคนอื่น มิวจะรู้สึกไม่มั่นใจตลอดเลย เพราะความไม่สมดุลของปากมันเห็นได้ชัดจริง ๆ และเป็นจุดที่สะดุดตาอย่างมากๆค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ให้ปากเท่ากัน…ช่วยได้จริงไหม?
ผ่านมา 2 ปี มิวเลยตัดสินใจลองแก้ปากกระจับที่ไม่เท่ากันด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก (ทั้งปากบนและล่าง รวม 2 cc) เพราะหวังว่ามันจะช่วยเติมทรงและทำให้ปากดูเข้ารูปขึ้น…
สำหรับใครที่สงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ปากไปเพื่ออะไร ? การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยารูโรนิคแอซิด (Hyaluronic acid) เข้าไปที่บริเวณปากค่ะ
เหมาะสำหรับคนที่ปากเหี่ยวย่น ปากไม่เท่ากัน ปากไม่ได้รูปทรง หรือแม้แต่ปากบาง ต้องการเพิ่มความหนาให้ริมฝีปากดูมีความอวบอิ่ม หรือมีมิติมากยิ่งขึ้น ทำให้ปากเป็นรูปทรงปากกระจับขึ้นค่ะ
สรุปฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นไง?
แต่ แต่ แต่ !!! ผลกลับตรงกันข้ามเลยค่ะ ปากของมิวไม่ได้ดูอิ่มฟูหรือมีมิติขึ้นเลย แต่ฟิลเลอร์ดันไปกองที่ติ่งกระจับ ทำให้ปากดูบวม เป็นก้อน
ยิ่งทำให้ทรงปากดูเสียหนักเข้าไปอีก ยิ่งเวลายิ้ม เวลาพูด รูปปากจะยิ่งดูผิดรูปมากขึ้น จนมิวเองรู้สึกไม่มั่นใจสุด ๆ ถึงขั้นไม่อยากส่องกระจกเลย นอยมากกก
พอเวลาผ่านไป ปัญหาก็ยิ่งสะสม ฟิลเลอร์เริ่มจับตัวเป็นก้อนเรื่อยๆ เวลาขยับริมฝีปากจะรู้สึกตึงและแข็งมากๆ
การฉีดฟิลเลอร์แล้วปากเป็นก้อนอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น การใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป, การฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิว, การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการที่แพทย์ขาดประสบการณ์
มิวเลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่กำลังจะตัดสินใจทำปากประจับเลยว่าเราต้องเลือกคลินิกศัลยกรรม หรือเรื่องคุณหมอที่ทำหัตถการก็ต้องเลือกให้ดีนะคะ
หลังจากนั้นมามิวเข็ดหลาบไปเลยทุกคน มิวเลยเริ่มจริงจังกับการหาข้อมูลเรื่องการแก้ปากกระจับมากขึ้น ว่าจะมีทางไหนบ้าง ควรเลือกทรงปากกระจับแบบไหน หรือที่ไหนที่สามารถแก้ให้ปากมิวกลับมาสวยและเป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง…
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: ทรงปากกระจับคืออะไร ทำแบบไหนดีเลือกทรงที่ชอบพร้อมบอกพิกัดทำปากกระจับ
ตัดสินใจมาปรึกษาหมอปิงปิง ที่ WE Clinic
มิวตัดสินใจมาปรึกษาที่ WE Clinic กับคุณหมอปิงปิง เพราะที่นี้รีวิวดีมาก มีแต่เคสยากๆที่มาแก้ที่นี้ บวกกับที่เพื่อนแนะนำมาด้วย (ที่นี่ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
ตอนที่ได้คุยกับคุณหมอ บอกตรง ๆ ว่ารู้สึก “อ๋อออ” แบบเข้าใจปัญหาของตัวเองชัดเจนมากขึ้น เพราะคุณหมออธิบายแบบละเอียดสุด ๆ
คุณหมอเริ่มจากประเมินรูปปากเดิมก่อน ว่าทำไมถึงมีปัญหาปากไม่เท่ากัน หมอจับเนื้อปาก ดูการเคลื่อนไหวเวลายิ้ม ดูโครงสร้างปากเดิม
และซักประวัติอย่างละเอียดว่ามิวเคยผ่าตัดปากกระจับมาก่อนไหม ฉีดฟิลเลอร์กี่รอบ ใช้ยี่ห้อไหน ฉีดตำแหน่งไหน เคยมีอาการอะไรหลังฉีดไหม
คุณหมอปิงปิงบอกว่า….
หมอปิงปิงอธิบายให้ฟังว่าเหตุผลที่ทำให้ปากมิวไม่เท่ากันและปากเป็นก้อนเกิดจาก:
- พังผืดเก่าจากการผ่าตัดเมื่อ 7 ปีก่อน ทำให้มุมปากถูกดึงรั้ง ไม่สามารถเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ เวลายิ้มจะเห็นชัดว่าข้างหนึ่งยกขึ้น ข้างหนึ่งตกลงมา
- ฟิลเลอร์ที่ฉีดซ้ำไปหลายรอบ กลับไปกองผิดตำแหน่ง ทำให้เนื้อปากไม่เรียบ บางจุดแข็งเป็นก้อน บางจุดหย่อน และกดทับเส้นปากเดิม
- การดูแลแผลปากกระจับหลังทำครั้งก่อน อาจไม่ถูกวิธี ทำให้พังผืดมีความแข็งตัวมากขึ้น และส่งผลต่อรูปทรงของปากตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
หมอปิงปิงสรุปให้ฟังว่าที่ปากมิวไม่เท่ากัน เกิดจากการผ่าตัดหรือฉีดฟิลเลอร์ที่ผิดวิธีทำให้ปากไม่เท่ากัน ซึ่งการศัลยกรรมปากกระจับจะแก้ไขปัญหาปากไม่เท่ากัน ช่วยทำให้ปากดูสมดุลขึ้น มีสัดส่วนที่พอเหมาะทั้งปากบนและปากล่าง
คุณหมออธิบายให้เข้าใจด้วยว่า… ถ้ายังไม่ตัดพังผืดออก และยังไม่ขูดฟิลเลอร์เก่าที่กองอยู่ ปากจะไม่มีทางได้ทรงสวยเลยค่ะ ต่อให้ฉีดเพิ่ม หรือแต่งทรงเพิ่ม ก็จะทำให้เสียโครงสร้างมากขึ้น
แก้ปากไม่เท่ากัน ปากเป็นก้อน ให้เป็นปากกระจับสวยยังไง
วิธีแก้ที่คุณหมอปิงปิงคือ :
- ต้องเลาะพังผืดออกทั้งหมด
- ขูดฟิลเลอร์เก่าออกให้เกลี้ยง
- จากนั้นจะจัดเรียงโครงสร้างเนื้อปากใหม่ทั้งหมด และออกแบบทรงใหม่ให้เหมาะกับรูปหน้ามิว
พอได้ฟังแบบนี้ก็ยอมรับเลยว่าตัดสินใจยากค่ะ… เพราะมันไม่ใช่การเติมฟิลเลอร์ธรรมดา หรือแค่ตัดนิดเดียว แต่ต้องแก้ทั้งโครงสร้างจริง ๆ (แอบกลัวมากด้วย เพราะเคยผิดหวังมาแล้วหลายรอบ)
ตัดสินใจแก้ปากกระจับ
จริง ๆ กว่ามิวจะตัดสินใจได้ ก็ใช้เวลาคิดอยู่ประมาณ 3 เดือนเต็ม ๆ เลยค่ะ เพราะในใจแอบกลัวมาก กลัวว่าจะผิดหวังอีก
เพราะเคยเจ็บตัวมาแล้ว เคยเติมฟิลเลอร์มาแล้วหลายรอบ แล้วผลลัพธ์ก็ไม่ดีขึ้น กลัวว่าถ้าตัดสินใจพลาดอีก จะยิ่งทำให้แก้ยากกว่าเดิม
แต่สุดท้ายที่เลือกทำกับ WE Clinic เพราะมี 3 เหตุผลหลัก ๆ
- มั่นใจในความเชี่ยวชาญของคุณหมอปิงปิง
ตอนมาปรึกษา คุณหมออธิบายละเอียดจริง ๆ และเข้าใจปัญหาของเราจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดว่า “แก้ได้” แบบผิวเผิน แต่บอกเป็นขั้นเป็นตอนเลยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แก้ตรงไหน ต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งทำให้รู้สึกเชื่อใจและมั่นใจมาก - เห็นรีวิวเคสแก้จริง ๆ เยอะมาก
มิวเองก็อ่านรีวิวเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะเคสที่เคยทำมาปากกระจับแล้วไม่พอใจเหมือนมิว แล้วมาแก้กับคุณหมอปิงปิง ก็ได้ทรงปากใหม่ที่สวยและดูธรรมชาติจริง ๆ อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า “โอเค…เราน่าจะไว้ใจที่นี่ได้” - WE Clinicดูแลดีมาก
ตั้งแต่แอดไลน์ไปคุยกับทางคลินิก จนถึงวันที่มาปรึกษาจริง ๆ พนักงานและทีมที่ดูแลคือใส่ใจมาก ตอบทุกคำถามอย่างละเอียด ไม่เร่ง ไม่ขายคอร์ส ไม่รีบปิดการขายเลยค่ะ แถมปรึกษาไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย ทำให้เรากล้าที่จะเข้ามาคุยก่อนโดยไม่รู้สึกกดดัน
บรรยากาศวันทำปากกระจับ
ก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอปิงปิงจะออกแบบรูปปากใหม่ให้ดูก่อนค่ะ — ซึ่งของมิวเลือกเป็นทรง ปากหัวใจ (Heart-shape) ที่ดูหวานละมุน และเข้ากับรูปหน้า โดยคุณหมอจะวาดและให้เราดูในกระจก ว่าถูกใจไหม ? ก่อนเริ่มทำจริง
พอถึงตอนทำ บรรยากาศในห้องผ่าตัดคือผ่อนคลายมากค่ะ มีเปิดเพลงเบา ๆ คลอในห้อง ทำให้เราไม่รู้สึกเครียดหรือกลัวจนเกินไป เจ็บนิดเดียวจริง ๆค่ะ แค่ตอนฉีดยาชา (แอบเกร็งอยู่เหมือนกันค่ะตอนนั้น 555) แต่หลังจากนั้นคือแทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จแล้วค่ะ
สิ่งที่ประทับใจมากอีกอย่างคือพี่ผู้ช่วยจะคอยจับมือให้ตลอดระหว่างทำ รู้สึกปลอดภัยมาก เหมือนมีคนอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา ไม่ได้รู้สึกว่าต้องนอนนิ่ง ๆ คนเดียวบนเตียง
ผลลัพธ์หลังทำปากกระจับ
- วันที่ 2 วันหลังทำ — อาการบวมน้อยกว่าที่คิดไว้ค่ะ ตอนแรกกังวลมากว่าปากจะบวมตุ่ยหลายวัน
- วันที่ 3 — เริ่มเห็นทรงปากกระจับชัดขึ้นแล้วค่ะ โดยเฉพาะช่วงกลางปากและขอบกระจับ
- วันที่ 5 — อาการบวมแทบไม่มีแล้วค่ะ ปากเริ่มเข้ารูปดูเป็นธรรมชาติขึ้น
- ครบ 1 สัปดาห์ — สามารถออกงานได้สบาย ๆ เลยค่ะ ไม่ต้องพะวงว่าปากจะยังบวมอยู่แล้ว
- ครบ 1 เดือน — ทรงปากกระจับเข้าที่มากค่ะ ยิ้มดูสวยและละมุนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกมั่นใจเวลายิ้มมากขึ้นเยอะเลยค่ะ
การดูแลหลังผ่าตัดปากกระจับ
หลังทำปากกระจับกับคุณหมอปิงปิง ต้องบอกเลยว่าคุณหมอแนะนำและอธิบายวิธีดูแลตัวเองละเอียดมาก ๆ บอกครบทุกข้อเลยค่ะว่าควรทำอะไร-งดอะไร เพื่อให้แผลหายไว ได้ทรงปากกระจับที่สวยแบบที่ตั้งใจไว้
หลัก ๆ มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ :
- ล้างแผล เช้า – เย็น ด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้แผลสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรค
- ห้ามโดนน้ำโดยตรงเวลาอาบน้ำ ต้องระวังอย่าให้ปากโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
- ทานยาตามที่คุณหมอสั่งเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- งดวิตามิน อาหารเสริม โดยเฉพาะวิตามินอี น้ำมันปลา หรือสมุนไพร เพราะอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง
- งดของหมักดอง อาหารแสลง และอาหารทะเล อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบหรือการติดเชื้อซ้ำ
ทำปากกระจับ ราคาเท่าไร?
ราคาทำปากกระจับบน + ล่าง 30,000 บาท (รวมออกแบบทรง + ผ่าตัด + ตัดไหม + ดูแลหลังทำครบทุกขั้นตอน)
ก่อนทำคุณหมอปิงปิงจะประเมินโครงสร้างปากเดิม วิเคราะห์สาเหตุ และคุยกับเราก่อนทุกเคส ไม่มีเร่ง ไม่มีขายคอร์ส จะได้ทรงปากที่สวยธรรมชาติ และเหมาะกับรูปหน้าจริง ๆ มิวแนะนำที่นี้เลยค่ะ
สรุป
ถ้าใครกำลังลังเลเรื่องปากกระจับ มิวอยากชวนให้ลองค่ะ มิวทำกับคุณหมอปิงปิงที่ WE Clinic แล้วรู้สึกเปลี่ยนมากกกก จากเคยมีปัญหาปากไม่เท่ากัน ฟิลเลอร์เป็นก้อน พอแก้แล้วปากสวยละมุน มั่นใจขึ้นเยอะเลย
คุณหมอมือเบา เย็บแผลเนียนมาก ดูแลดีมากจริง ๆ ที่สำคัญผลลัพธ์คือ ปากกระจับสวยธรรมชาติ ไม่โป๊ะ ไม่หลอกตา ใครกำลังหาข้อมูลอยู่ มิวแนะนำเลยค่ะ เข้าไปปรึกษาก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ลองดูค่ะ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ