เมื่อน้ำหนักมากขึ้นหรือมีอายุมากขึ้น ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยที่เป็นส่วนเกินก็จะเริ่มเกิดขึ้น ในส่วนของร่างกายเราอาจใช้เสื้อผ้าพรางได้บ้างแต่ส่วนของใบหน้าอย่างเหนียงใต้คางนั้นยากเหลือเกินที่จะปกปิดไว้
สำหรับใครที่กำลังปวดหัวเรื่องเหนียงหรือไขมันที่สะสมอยู่ใต้คางพอดี วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับเหนียงว่าเกิดจากอะไร จะป้องกันได้อย่างไร ที่สำคัญคือมีเหนียงอยู่แล้วจะมีวิธีลดเหนียงแบบไหนที่ได้ผลบ้าง มาดูกัน
วิธีลดเหนียง
อย่างแรกเลยทุกคนต้องอยากรู้แน่นอนว่าวิธีลดเหนียง นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งวิธีการลดเหนียง คือ การลดไขมันใต้ผิวหนังที่สะสมบริเวณใต้คาง ทำให้ใบหน้าดูกระชับมากขึ้น โดยเราสามารถใช้วิธีลดเหนียงได้ทั้งแบบการลดด้วยตัวเอง เช่น การออกกำลังกายลดเหนียง วิธีนี้จะใช้เวลานาน แต่หากสามารถปรับพฤติกรรมและดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอได้ก็จะลดเหนียงได้นาน ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อาจจะไม่ทันใจใครหลายคนที่อยากเรียกคืนความมั่นใจเร็วสักหน่อย
ดังนั้น จึงมีอีกหนึ่งวิธีซึ่งเป็นทางลัด นั่นคือ การปรึกษาแพทย์และใช้ตัวช่วยที่เหมาะสม ที่นับเป็นทางลัดซึ่งสามารถเรียกคืนความสวยและความมั่นใจได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับวิทยาการตอนนี้ที่เราสามารถเลือกวิธีการที่ตรงใจที่สุดได้เลย
รู้จัก “เหนียง” เกิดจากอะไร
เหนียง คือ ส่วนเกินบริเวณใต้คางที่อาจเกิดจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังหรืออาจเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง มีลักษณะเป็นเนื้อที่หย่อนคล้อยลงมาจากใต้คาง บางคนจะเรียกการมีเหนียงว่า คางสองชั้น
นอกจากการสะสมของไขมันและการเพิ่มขึ้นของอายุแล้ว พฤติกรรมบางอย่างยังทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดเหนียงได้ เช่น การกดหน้าจนเกิดรอยพับที่ใต้คาง เป็นต้น แม้ว่าเหนียงจะไม่มีอันตรายอะไร แต่การมีเหนียงก็ทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะมันทำให้ดูอ้วนหรือดูแก่กว่าความเป็นจริงได้ จึงมีหลายคนที่อยากกำจัดส่วนเกินแล้วเรียกเอาความสวยความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
การป้องกันไม่ให้เกิดเหนียง
วิธีป้องกันการเกิดเหนียงนั้นสามารถทำได้โดยเริ่มจากการใส่ใจตัวเองให้มากขึ้น เช่น การออกกําลังกายลดแก้มเหนียง เพื่อลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน, การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีไขมันต่ำ, การพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้อย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องหลีกเลี่ยงการทำพฤติกรรมที่ทำให้เกิดเหนียง อย่างเช่น การพับคางจากการกดหน้าลง เป็นต้น
วิธีลดเหนียงเร่งด่วน
เพราะเวลาไม่เคยรอใคร อยากสวยแล้วต้องได้สวยเลย ใครที่อยากลดเหนียงหรือตามหาวิธีลดเหนียงเร่งด่วน มาทางนี้เลย เพราะนี่คือวิธีการลดเหนียงอย่างเร่งด่วนที่มีให้บริการอยู่ในปัจจุบัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เมโสแฟต
เมโสแฟต(Meso Fat) คือ การฉีดตัวยาที่ช่วยลดไขมันส่วนเกิน ทำให้สัดส่วนที่ถูกฉีดกระชับมากขึ้น ทั้งยังช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน ลดการเกิดไขมันใหม่ ช่วยทำให้โครงสร้างผิวกระชับมากขึ้นด้วย โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนหลังจากการฉีด 2-4 สัปดาห์ จึงเรียกว่าเป็นวิธีลดแก้มเหนียงเร่งด่วนอีกทางหนึ่ง แต่วิธีนี้นับว่าไม่เห็นผลอย่างถาวร เพราะเป็นเพียงการกำจัดไขมันสะสมชั้นตื้นเท่านั้น ราว 2-3 เดือนก็อาจจะเริ่มเกิดเหนียงขึ้นอีกครั้ง (ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงของเมโสแฟตนั้นจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินและชีวิตประจำวันด้วย)
ผ่าตัดไขมันเหนียง
การผ่าตัดไขมันเหนียง (Double Chin Surgery) คือ การศัลยกรรมเพื่อกำจัดเหนียงอย่างถาวรที่มากกว่าแค่ฉีดลดสลายไขมัน เพราะเป็นการนำเอาไขมันใต้คางออกไปเลยไม่ว่าจะเป็นไขมันสะสมชั้นตื้นหรือชั้นลึกก็จะถูกกำจัดออกไปทำให้สามารถเห็นกรอบหน้าที่ชัดมากขึ้นได้ทันทีหลังการผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่มีไขมันใต้คางในปริมาณมากหรือใครที่ต้องการลดเหนียง 1 สัปดาห์ และต้องการผลลัพธ์แบบถาวรก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน
การผ่าตัดไขมันเหนียงจะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการผ่าตัดให้ โดยการผ่าตัดจะใช้การฉีดยาชาและผ่าที่บริเวณใต้คางโดยมีรอยแผลราว 1-2 เซนติเมตรซึ่งหลังการผ่าตัดแล้ว รอยแผลนี้จะค่อยๆ จางลงไปเองจนมองไม่เห็นได้หากมีการดูแลอย่างเหมาะสม ดังนั้นใครที่ต้องการกำจัดไขมันเหนียงสะสมถาวรและไม่อยากได้แผลเป็น นี่เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียวเพราะทั้งถาวรและยังเห็นผลได้ทันทีด้วย
ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction) คือ การใช้อุปกรณ์พร้อมกับท่อขนาดเล็กจิ้มเข้าที่ไขมันใต้คางจากนั้นก็ทำการดูดออกมา นับเป็นวิธีหนึ่งที่เอาไขมันออก เพียงแต่การใช้วิธีนี้ แนะนำว่าต้องมีผิวที่ยืดหยุ่นดีหรือเป็นผิวที่ไม่บางด้วยไม่อย่างนั้นทำแล้วอาจมีปัญหาผิวเกิดรอยคลื่นได้ นอกจากนี้การดูดไขมันเหนียงนั้นเป็นเพียงการกำจัดไขมันสะสมชั้นตื้นเท่านั้นไม่ได้เอาออกทั้งหมดผลที่ได้จึงอาจไม่มากนัก
แต่การดูดไขมันที่เร่งด่วนนี้ หลังจากดูดออกแล้วจะต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงอย่างเช่น รอยเขียวช้ำ อาการบวมหรือผิวไม่กระชับ เป็นต้น
เสริมคาง
การเสริมคางก็นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังที่หย่อนคล้อย เพราะเป็นการเสริมเข้าไปทำให้ผิวหนังตึงมากขึ้น ใบหน้าจะดูเรียวและสามารถปรับให้ใบหน้ากลม คางสั้นหรือคางทู่ ไม่สวย ให้ดูสวยมากขึ้นได้ ซึ่งวิธีการเสริมคางนั้นจะมี 2 แบบให้เลือก คือ เสริมคางแผลนอก VS แผลใน
ลองดูรีวิวเสริมคางที่ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้ที่ >> รีวิวเสริมคาง <<
วิธีลดเหนียงด้วยวิธีอื่นๆ
นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้นยังมีวิธีการลดไขมันที่สามารถลดเหนียงได้อีกมากมาย ดังนี้
- การร้อยไหมเก็บเหนียงนั้น เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่จะทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์และไม่ได้มีการกำจัดไขมันที่เป็นสาเหตุหลักออกไปซึ่งทำให้วิธีนี้ไม่ใช่การกำจัดกับเหนียงอย่างถาวร เมื่อเวลาผ่านไปเหนียงจะยังคงกลับมาอีกครั้งอยู่ดี
- Hifu Ultraformer III คือ การยกกระชับเหนียงโดยการใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ยิงเข้าชั้นผิว อีกทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับบริเวณนั้นได้ จึงเหมาะกับคนที่กลัวเข็ม เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยไม่มากนัก สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผลของการทำ Hifu นั้นจะอยู่ได้ราว 1 ปี
- Thermage FLX คือ การใช้เทคโนโลยี Radio frequency (RF) ส่งความร้อนเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่และทำให้เซลล์ไขมันถูกย่อยสลายไป เหมาะกับการลดเหนียงหรือไขมันบนใบหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่วิธีการลดเหนียงอย่างถาวร
- Coolsculpting คือ การสลายไขมันด้วยการใช้ความเย็น เป็นการแช่แข็งไขมันด้วยอุณหภูมิ -11 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิระดับนี้จะทำให้เซลล์ไขมันตายได้หลังจากถูกนวด เหมาะกับการทำเฉพาะจุดสามารถเห็นผลได้ใน 3-4 สัปดาห์ และชัดเจนมากที่สุดใน 3 เดือน แต่การทำหนึ่งครั้งสามารถลดไขมันได้ราว 1 ใน 4 เท่านั้น สามารถกลับมาทำใหม่ได้เรื่อยๆ
วิธีการลดเหนียงแบบไหน เหมาะกับใคร
ได้เห็นวิธีการลดเหนียงใต้คางอย่างรวดเร็วมาแล้ว หลายคนคงตาลายไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรกันเลย เรามาดูกันให้ชัดเจนเลยว่า วิธีไหนจะเหมาะกับใครกันแน่ โดยจะเปรียบเทียบกับวิธีการลดเหนียงที่ได้รับความนิยมอย่าง การตัดไขมัน การดูดไขมันและการเสริมคาง เป็นหลัก
การตัดไขมันเหนียง
ข้อดีของการผ่าตัดไขมันเหนียงคือเป็นการกำจัดไขมันอย่างถาวร ไม่ว่าจะเป็นชั้นตื้นหรือลึกก็เอาออกไปพร้อมกันทั้งหมดและไม่มีการกลับมาอีก ทำให้สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังการผ่าตัด ทั้งยังสามารถเย็บกระชับผิวหย่อนคล้อยได้ด้วยผลที่ออกมาก็จะสมบูรณ์แบบเพราะได้ทั้งการจัดการไขมันและผิวหย่อนคล้อยไปพร้อมกันเลย
ข้อเสียของการผ่าตัดไขมันเหนียงคือการมีรอยแผลเป็นเล็กๆ บริเวณใต้คางให้ดูแลหลังผ่าตัด แต่หากดูแลดีแผลเป็นตรงนั้นก็สามารถจางลงไปจนมองแทบไม่เห็นได้เช่นกัน
การดูดไขมันเหนียง
ข้อดีของการดูดไขมันเหนียงคือมีแผลน้อยกว่าวิธีการอื่นเพราะเป็นการใช้อุปกรณ์ดูดเพื่อกำจัดไขมันออกไปจึงเหมาะมากกับการกำจัดไขมันโดยเฉพาะและไม่มีปัญหาเรื่องอื่นๆ อย่างผิวบางหรือผิวหย่อนคล้อย
ข้อเสียของการดูดไขมันเหนียงคือวิธีการนี้ดูดไขมันสะสมในชั้นลึกไม่ได้จึงดูดออกไปได้ไม่มากนักและยังไม่สามารถเย็บกระชับผิวได้ทำให้คนที่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยไม่ควรกำจัดเหนียงด้วยวิธีนี้ รวมถึงคนผิวบางด้วย
เสริมคาง
ข้อดีของการเสริมคางคือเป็นการเสริมให้ใบหน้าได้รูปและกระชับมากขึ้น เป็นวิธีหนึ่งที่คนมีปัญหาเรื่องผิวหนังหย่อนคล้อยสามารถใช้แก้ไขให้เหนียงกระชับขึ้นได้
ข้อเสียของการเสริมคางคือไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมใต้ชั้นคางเพราะไม่ใช่การกำจัดไขมันออกไปแต่เป็นการเสริมรูปคางเป็นหลัก
คำถามที่พบบ่อย
ลดเหนียงใต้คางภายใน 7 วันได้จริงไหม
ด้วยเทคนิคและวิธีการของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถลดเหนียงได้ใน 7 วันจริง เช่น วิธีการผ่าตัดไขมัน วิธีการดูดไขมัน การทำ Hifu การทำ Coolsculpting และการทำ Ulthera เป็นต้น วิธีการเหล่านี้สามารถลดเหนียงได้ภายใน 7 วัน บางวิธีการก็สามารถทำได้เร็วกว่านั้น
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดไขมันเหนียง
- วันที่ 0-3 ให้ประคบเย็น วันที่ 4 เป็นต้นไปจนถึง 1 เดือน ให้ประคบอุ่นเพื่อลดอาการบวมช้ำ (วันที่ทำศัลยกรรมนับเป็นวันที่ 0)
- ควรปิดผ้าดามไว้ 5 วัน
- หลังจากครบ5วัน ให้ถอดผ้าดามออก แล้วเริ่มทำความสะอาดแผล
- หลังจากทำความสะอาดแผล ให้ปิดพลาสเตอร์กันน้ำ แล้วใส่ผ้ารัดหน้าไว้เหมือนเดิม
- ควรใส่ผ้ารัดหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
- แผลห้ามโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม โดยที่หลังตัดไหม ห้ามให้แผลโดนน้ำอีก 1 วัน หลังจากนั้นจึงลล้างหน้าได้ตามปกติ
- ควรนอนหมอนสูงกว่าลำตัวเพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และการรับประทานอาหารแสลงอย่างของหมักดอง หลังการผ่าตัดราว 1 เดือน
สามารถตัดไขมันเหนียงพร้อมการเสริมคางได้ไหม แผลผ่าตัดอยู่ตรงไหน
สามารถผ่าตัดไขมันไปพร้อมกับการเสริมคางได้เลย เพราะแผลของการผ่าตัดจะอยู่ใต้คางพอดีซึ่งกระบวนการเหล่านี้สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการผ่าตัดได้ว่าต้องการแบบไหน เพื่อให้เรามีแผลแค่ที่เดียว เจ็บครั้งเดียว ดูแลแค่ครั้งเดียวก็สวยหล่อกันได้เลย
สรุป
สำหรับใครต้องการลดเหนียงก็ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยมีทั้งวิธีลดแก้มเหนียงแบบธรรมชาติ เช่น การใช้ท่าบริหารลดเหนียง หรือการใช้วิธีเร่งด่วนอย่างการเข้ารับการทำหัตถการต่างๆ ก็สามารถเลือกวิธีการที่ต้องการได้เลย
แต่สำหรับใครที่เลือกวิธีการลดเหนียงแบบรวดเร็วก็อย่าลืมเลือกคลินิกที่สะอาด ปลอดภัย และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเสริมความมั่นใจให้คุณด้วย โดยการทำหัตถการต่างๆ นี้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยได้ แต่สิ่งสำคัญคือการระมัดระวังพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งเรื่องการกินและท่าทางที่ทำให้เกิดเหนียงก็ควรปรับให้เหมาะสม เพื่อให้ความสวยหล่อ มั่นใจนี้อยู่กับเราได้นานๆ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ