ของแสลง… เป็นคำที่ใช้เรียกอาหารที่ไม่ควรกินเมื่อป่วยหรือมีบาดแผล ซึ่งผู้เฒ่าผู้ใหญ่หลายบ้านก็คงจะพูดต่อกันมาว่าห้ามกินสิ่งนั้นสิ่งนี้เมื่อไม่สบายหรือหลังผ่าตัด เพราะจะทำให้อาการแย่ลง แต่แท้จริงแล้วของแสลงหลังผ่าตัดมีจริงไหม? ในช่วงหลังผ่าตัดจะต้องดูแลตนเองอย่างไร หาคำตอบกันได้ที่นี่เลย
ของแสลงหลังผ่าตัด มีจริงไหม?
ของแสลงหลังผ่าตัดมีจริง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่นับว่าเป็นของแสลงตามที่ผู้เฒ่าผู้ใหญ่บอกต่อกันมา อาหารเป็นส่วนสำคัญอย่างมากเมื่อป่วยหรือมีบาดแผล เพราะสารอาหารที่รับประทานเข้าไปสามารถเป็นได้ทั้งประโยชน์ในการฟื้นฟูร่างกาย หรือเป็นโทษที่ทำให้อาการป่วยหรือการบาดเจ็บแย่ลงได้
ซึ่งอาหารบางอย่างที่เคยเชื่อว่าเป็นของแสลง กลับไม่ได้เป็นอันตรายเมื่อรับประทานอย่างที่เชื่อกันมา อีกทั้งยังอาจเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูอาการเจ็บป่วยได้ดีเยี่ยม ยกตัวอย่างเช่น
- ไข่ โบราณว่ากันว่าห้ามกินไข่เพราะจะทำให้แผลหายช้า แต่ความจริงแล้วไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่จะช่วยเสริมสร้างการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- เนื้อสัตว์ ในเนื้อสัตว์อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินสูง ช่วยฟื้นฟูบาดแผลให้หายเร็วขึ้น การรับประทานเนื้อสัตว์ จึงไม่นับว่าเป็นของแสลงหลังผ่าตัดอย่างที่เชื่อกันมา
กลับกันหากขณะป่วยหรือหลังผ่าตัดหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ อาจทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอและทำให้แผลหายยาก อาการป่วยหายช้า เนื่องจากเมื่อร่างกายเราได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยขึ้น ความต้องการโปรตีนต่อวันจะสูงขึ้นกว่าปกติ ซึ่งการงดทั้งเนื้อสัตว์และไข่ที่เป็นแหล่งโปรตีนสูง จึงมีโอกาสที่จะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนไม่พอต่อความต้องการนั่นเอง
อะไรนับเป็นของแสลงหลังผ่าตัดที่ห้ามกินบ้าง?
อาหารเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นทั้งแหล่งพลังงานและสารอาหารที่จะเข้าไปช่วยบำรุง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และยังสามารถช่วยส่งเสริมให้การทำงานของระบบร่างกายดียิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าอาหารทุกชนิดจะเป็นเช่นนั้น เนื่องจากอาหารบางอย่างเป็น ‘ของแสลงหลังผ่าตัด’ ที่หากรับประทานไปเมื่อยามเจ็บป่วยอาจทำให้อาการเจ็บป่วยย่ำแย่ลง มีโอกาสติดเชื้อ หรือเกิดอาการแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น โดยอาหารดังต่อไปนี้เป็นของแสลงหลังผ่าตัดที่ควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทานหลังผ่าตัด หากไม่อยากให้แผลอักเสบ ติดเชื้อ และหายยาก
อาหารดิบ หรือ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
อาหารดิบ หรือ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ยกตัวอย่างเช่น ลาบ, ก้อย, ซาชิมิ, กุ้งเต้น, ซอยจุ๊ ฯลฯ อาหารเหล่านี้มีโอกาสที่จะปนเปื้อนจุลินทรีย์ก่อโรค อาทิ แบคทีเรีย พยาธิ ซึ่งอาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อ และนำไปสู่อาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้อาหารดิบ ๆ สุก ๆ ยังอาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีหรืออาหารเป็นพิษ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และทำให้อาการเจ็บป่วยแย่กว่าเดิม
อาหารหมักดอง
อาหารหมักดอง ยกตัวอย่างเช่น หน่อไม้ดอง, ผลไม้ดอง, ผักดอง, ปลาร้า, ปูดอง, ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ เนื่องจากอาหารเหล่านี้ผ่านกระบวนการแปรรูปมาเพื่อยืดอายุของอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น แล้วในกระบวนการนั้นทำให้อาหารหมักดองมีน้ำตาลและโซเดียมเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้แผลอักเสบหรือบวมขึ้นได้ อีกทั้งอาหารหมักดองบางชนิดยังไม่ผ่านกระบวนการปรุงสุกหรือฆ่าเชื้อ อาจทำให้มีโอกาสที่จะปนเปื้อนจุลินทรีย์ก่อโรคได้อีกด้วย
อาหารรสจัด
อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด ล้วนส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูของแผลหลังผ่าตัด ทำให้แผลเกิดการอักเสบและหายช้า สำหรับอาหารเค็มจัด ทำให้ปริมาณโซเดียมในร่างกายสูง มีโอกาสที่แผลบวมน้ำ ในส่วนของอาหารหวานจัด จะทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้ง่าย และอาหารเผ็ดจัด อาจทำให้เกิดการหลั่งเหงื่อ จนก่ออาการระคายเคืองที่แผลได้
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ศัตรูตัวร้ายที่ขัดขวางการฟื้นฟูบาดแผลหลังผ่าตัด เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เลือดไหลเวียนมากกว่าปกติ เลือดจึงไหลซึมที่บาดแผลนานจนทำให้บาดแผลบวมและหายช้า อีกทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังสามารถกระตุ้นการอักเสบ ลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีสารอนุมูลอิสระ ทำให้กระบวนการซ่อมแซมบาดแผลไม่มีประสิทธิภาพ
อาหารทะเล
ของแสลงหลังผ่าตัดที่ไม่ควรรับประทานอีกอย่างหนึ่งคืออาหารทะเล เนื่องจากเสี่ยงต่ออาการแพ้ ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณที่ผ่าตัด รวมถึงเพิ่มโอกาสให้เกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดได้ง่ายขึ้น
นอกจากของแสลงหลังผ่าตัดเหล่านี้ที่ไม่ควรรับประทานแล้ว หากไม่อยากให้แผลผ่าตัดหายช้า ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี สารสกัดจากใบแปะก๊วย สมุนไพรต่าง ๆ เนื่องจากมีผลต่อระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก แผลผ่าตัดจึงหายช้า
เตือนภัย! กินอาหารแสลงหลังผ่าตัด อาจเจอผลข้างเคียงอันตรายที่คาดไม่ถึง
ตามปกติแล้วหลังผ่านหัตถการผ่าตัด แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองและข้อควรระวังหลังผ่าตัดเสมอ เช่น ควรกินอะไร ไม่ควรกินอะไร แต่หากเราเผลอไปกินของแสลงหลังผ่าตัดแล้ว สามารถเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง?
เอาล่ะ เรามาเริ่มจริงจังกันดูบ้าง วันนี้จะพาไปตามดูเคสตัวอย่าง ที่เรียกได้ว่าอุทาหรณ์สำหรับคนไข้ที่ไม่เชื่อฟังคุณหมอนะคะ เห็นแบบนี้แล้วขอบอกเลย หาดเอาเป็นตัวอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมา มันจะสายเกินแก้ไข จนอาจจะถึงแผลอักเสบติดเชื้อกันได้เลยทีเดียว
เคสนี้ “น้องป๋วย” คนไข้ได้ลงรีวิวอาการหลังเสริมคาง เพื่อเตือนภัยหนุ่มๆ สาวๆ วัยคึกคะนองที่อยากลองของไว้ในแอพ Lemon8 ผ่านเพจ lollipoppuey ไว้ว่า “กว่าจะสวย เกือบขิต!! รู้งี้น่าจะเชื่อหมอตั้งแต่แรก”
“สวัสดีค๊า~ วันนี้ป๋วยมาแชร์ประสบการณ์เสริมคางครั้งแรกกันนะคะ!!
ที่บอกว่าเสริมคางครั้งแรกเนี้ย คือ ไม่เคยทำอะไรกับคางมาก่อนเลยยยย ฟิลลงฟิลเลอร์ไม่เคยฉีด หน้ากลมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ยิ่งไปทำจมูกมา คางก็ดูสั้นเข้าไปอี้กกก
เลยตัดสินใจเสริม!! เสริมเลยถาวรดี เลยไปจบที่ We Clinic กับคุณหมอแซมมาค่ะ คุณหมอน่ารักมาก มือเบา ที่สำคัญคือ แผลเล็กมาก!! ไม่ถึง 1 cm. ปังไม่ไหว
แต่มันผิดที่ฉันเอง… แม่!!! ด้วยความว่าเคยทำจมูกมาก่อน คิดว่ากินนิดกินหน่อยไม่เป็นอะไรหรอก ล่อแซลม่อนไปสิวันแรก ต่อด้วยอาหารทะเลจัดหนัก กรี๊ดดดดด เกือบขิต!! คางบวมมาก เรียกว่าบวมทั้งหน้า ตึงไปหมด จะร้องไห้ แต่โชคดีมากที่คุณหมอช่วยหนูเอาไว้ ที่คลินิกดูแลดีมากๆ
สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจะไปทำศัลยกรรมนะคะ บอกเลยตรงนี้ เชื่อหมอเถอะ!! เขาห้ามกินคือห้าม สักนิดก็อย่าลองเลย เสี่ยงมากๆ อย่างเราเนี้ย เรียกได้ว่าใช้แต้มบุญไปหมดแล้วก็ว่าได้ กว่าจะสวยมันเหนื่อยจังแว๊!!”
ได้อ่านรีวิวอาการหลังเสริมคางกันไปแล้วเป็นยังไงบ้างคะ ส่วนตัวแอดตกใจมาก เพราะน้องป๋วยคือเหมือนเอาซิลิโคนแขวนไว้ปากเหวลึกเลย แต่ต้องบอกก่อนเลยค่ะว่า คุณหมอดูแลให้แบบใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆค่ะ ปัจจุบันทั้งจมูกและคาง ทรงเข้าที่ดี สวยรัดแกน รับเข้ากันมากขึ้นมากๆ แอดแอบเอารูปอัพเดตล่าสุดมาแปะไว้ให้ดูกัน
ผลข้างเคียงทั่วไปหลังกินของแสลงหลังผ่าตัด
- คัน
- บวมแดงเล็กน้อย
ซึ่งผลข้างเคียงระดับทั่วไปนี้จะไม่เป็นอันตรายมากนัก การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถกินยาแก้แพ้ รักษาตามอาการ และมาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการผิดปกติให้อีกครั้ง
ผลข้างเคียงรุนแรงหลังกินของแสลงหลังผ่าตัด
- แผลบวมแดงมาก
- มีอาการปวดรุนแรง
- มีการติดเชื้อ
หากเผลอกินของแสลงหลังผ่าตัดแล้วเกิดอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์โดยทันที เพราะแผลผ่าตัดอาจเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้แผลเน่า หายช้า หรืออันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อยากให้แผลผ่าตัดหายเร็ว? หลังผ่าตัดควรทานอะไร?
แผลผ่าตัดจะฟื้นฟูและหายได้เร็วก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น เพื่อนำไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสนับสนุนระบบการทำงานของร่างกาย หากอยากให้ร่างกายแข็งแรง แผลหายเร็วขึ้น อาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่ไม่ควรพลาด
โปรตีน
โปรตีนเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญต่อระบบร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดอาการป่วยหรือเกิดบาดแผลเช่นบาดแผลจากการผ่าตัด เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อทดแทน ทำให้แผลสมานตัวและหายเร็วยิ่งขึ้น
แนะนำอาหารที่มีโปรตีนสูง
- ไข่ : ในไข่ 1 ฟองให้โปรตีนสูงถึง 7 กรัม อีกทั้งภายในไข่ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายทำงานดีเป็นปกติ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 บี2 บี6 โฟเลต ฟอสฟอรัส และอื่น ๆ อีกมากมาย
- เนื้อสัตว์ : ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อปลาน้ำจืด ก็ล้วนให้โปรตีนและสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกาย
- ธัญพืชต่าง ๆ : ในธัญพืชหลายชนิดมีโปรตีนสูงไม่แพ้เนื้อสัตว์เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีใยอาหารสูง และแคลอรีต่ำอีกด้วย
วิตามินและแร่ธาตุจากอาหารสด
วิตามินและแร่ธาตุเป็นสารอาหารที่ต้องการในปริมาณไม่มาก แต่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ เพราะมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบร่างกายเป็นปกติ โดยเฉพาะหลังผ่าตัดที่ร่างกายเร่งการฟื้นฟู แต่ระบบร่างกายจะทำงานได้ดีขึ้นก็ต่อเมื่อมีวิตามินและแร่ธาตุที่ต้องการอย่างเพียงพอ
ตัวอย่างของวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูแผลผ่าตัด
- ธาตุเหล็ก : พบได้ในผักใบเขียว เต้าหู้ ธัญพืช ฯลฯ มีส่วนช่วยให้บาดแผลได้รับการฟื้นฟูเร็วขึ้น เนื่องจากเม็ดเลือดแดงที่มีออกซิเจนได้ถูกลำเลียงไปยังบาดแผล ทำให้บาดแผลได้รับออกซิเจนและสารอาหารสำหรับฟื้นฟูได้มากขึ้น
- สังกะสี : พบได้ในเมล็ดทานตะวัน รวมถึงเนื้อสัตว์ เช่น ไข่ เครื่องในสัตว์ ฯลฯ มีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมโปรตีนเพื่อใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่อีกด้วย
- ไขมันดี : พบได้ในอะโวคาโด อัลมอนด์ น้ำมันมะกอก ฯลฯ ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน จึงทำให้โปรตีนสามารถทำหน้าที่ฟื้นฟูบาดแผลผ่าตัดได้ดี และยังช่วยปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้บาดแผลสมานตัวได้ไว
- วิตามินซี : พบได้ในส้ม สตอเบอร์รี สัปปะรด ฯลฯ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการติดเชื้อหลังผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด และเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายไม่ให้ถูกสารอนุมูลอิสระทำลายได้ง่าย ๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้รับประทานวิตามินและแร่ธาตุในรูปแบบอาหารเสริม เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัดได้ ไม่ว่าจะเลือดหยุดไหลช้า แผลบวมช้ำ ทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม
น้ำเปล่า
ร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นองค์ประกอบมากกว่าครึ่ง น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เมื่อร่างกายมีน้ำเพียงพอก็จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ ดังนั้นหลังผ่าตัดจึงควรดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เพื่อให้ร่างกายมีน้ำเพียงพอสำหรับการทำงานของระบบทุกส่วนในร่างกาย
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้แผลผ่าตัดหายไวขึ้น ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัด เช่น อาการอักเสบหรือติดเชื้อ เราสามารถดูแลตนเองได้อย่างไรบ้าง
สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ หลังเสริมจมูก ดูแลตนเองอย่างไร ให้จมูกสวย ปลอดภัย พร้อม Q&A
สรุป
การฟื้นฟูร่างกายจากการเจ็บป่วย หรือบาดแผลหลังผ่าตัดนั้น อาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กับการดูแลตนเองในเรื่องอื่น ๆ การหลีกเลี่ยงของแสลงหลังผ่าตัด และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะมีส่วนช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายเป็นไปได้ดี แผลหายเร็ว รวมถึงลดโอกาสติดเชื้อ อักเสบ หรือเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น การดูแลตนเองหลังผ่าตัดในด้านอื่น ๆ นอกจากการเลือกรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก การหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ และที่สำคัญที่สุดคือการรับประทานยาและปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้แผลหายไว สวยเร็วขึ้น
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ