อันตรายใกล้ตัว! หนังตาตก ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม

หนังตาตกถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายๆคน ภาวะหนังตาตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัยและมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน โดยอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง แม้ว่าอาการหนังตาตกจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแล อาจส่งผลต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตในระยะยาว มาร่วมกันค้นหาต้นตอที่ก่อให้เกิดภาวะหนังตาตกไปพร้อมๆกับ WE Clinic กันนะคะ 

หนังตาตก คืออะไร

หนังตาตก (Ptosis Drooping Eyelids) คือ ภาวะที่หนังตาบนหย่อนคล้อยตกลงมาต่ำกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิต หนังตาตกมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นปิดบังม่านตาและบดบังตาดำจนกระทบต่อการมองเห็น สาเหตุของหนังตาตกเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด หรือมีการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาจากอายุที่เพิ่มขึ้น การสะสมของไขมันบริเวณหนังตาที่มากเกินไป หรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ในบางกรณีผู้ที่มีอาการหนังตาตกอาจต้องเงยหน้า หรือต้องเลิกหน้าผากบ่อยๆเพื่อพยายามปรับสายตาให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เสียบุคลิกภาพได้

 อย่างไรก็ตาม หากภาวะหนังตาตกไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาการมองเห็นระยะยาว การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอาการหนังตาตกอย่างถูกต้องและตรงจุด

หนังตาตกมีลักษณะอย่างไร?

  1. ลืมตาได้ไม่เต็มที่ หนังตาด้านบนหย่อนคล้อยลงมาจนทำให้ไม่สามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่ โดยอาจเกิดขึ้นกับตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
  2. ตาดำถูกบดบัง เปลือกตาที่หย่อนลงมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ตาดำบางส่วนถูกบดบัง ซึ่งอาจกระทบต่อการมองเห็นโดยตรง
  3. ดวงตาดูปรือ หนังตาตกทำให้ดวงตาดูง่วงนอนหรือปรืออยู่ตลอดเวลา ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส
  4. การมองเห็นผิดปกติ หนังตาตกอาจทำให้เกิดอาการมองเห็นไม่ชัด ภาพซ้อน หรือตาพร่ามัว เนื่องจากเปลือกตาบดบังการมองเห็น
  5. อาการแทรกซ้อน ในบางกรณี หนังตาตกอาจทำให้เกิดภาวะตาล้า ตาแห้ง หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตาขี้เกียจ โดยเฉพาะในวัยเด็กที่พัฒนาการมองเห็นยังไม่สมบูรณ์
  6. ลักษณะตาไม่เท่ากัน อาจสังเกตเห็นได้ชัดว่าเปลือกตาทั้งสองข้างมีระดับที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งลักษณะของหนังตาตกที่พบได้บ่อย

ลักษณะของหนังตาตกเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อความสวยงามและความมั่นใจ แต่ยังอาจกระทบต่อการมองเห็นและการดำเนินชีวิตอีกด้วย หากพบลักษณะใดที่เข้าข่ายลักษณะของหนังตาตก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการประเมินและดูแลอย่างเหมาะสม

สาเหตุของหนังตาตก เกิดจากอะไรบ้าง

หนังตาตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะมีสาเหตุและปัจจัยหลายประการที่ทำให้หนังตาตกได้ ดังนี้

หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด

หนังตาตกตั้งแต่กำเนิดเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ควบคุมหนังตาตั้งแต่แรกเกิด ส่งผลให้เด็กที่มีภาวะหนังตาตกไม่สามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่ หรือพบลูกตาสองข้างไม่เท่ากันอย่างชัดเจน ภาวะหนังตาตกอาจทำให้เกิดปัญหาด้านการมองเห็น เนื่องจากหนังตาตกลงมาปิดบางส่วนของดวงตา ซึ่งอาจขัดขวางการพัฒนาทางสายตาของเด็ก หากปล่อยให้หนังตาตกไปต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่อาการตาขี้เกียจ (Amblyopia) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็นในระยะยาว และเป็นภาวะที่แก้ไขได้ยากเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การตรวจและรักษาภาวะหนังตาตกตั้งแต่อายุยังน้อยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันผลกระทบต่อการมองเห็นในอนาคต

หนังตาตกในผู้สูงอายุ

หนังตาตกในผู้สูงอายุ เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตา ซึ่งอาจยืดตัวหรือคลายออกจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน หรือไขมันพอกสะสมบริเวณเปลือกตา ซึ่งหนังตาตกมักบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น  แม้ว่าภาวะหนังตาตกในระยะแรกอาจไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นมากนัก  แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแล อาการหนังตาตกอาจทวีความรุนแรงขึ้นจนรบกวนการมองเห็น หรือภาวะหนังตาตกอาจเป็นสัญญานบ่งชี้ถึงความผิดปกติที่ซ่อนอยู่อีกด้วย  การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มสังเกตเห็นอาการหนังตาตก จึงเป็นสำคัญและสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

หนังตาตกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ช่วยเปิดเปลือกตา ส่งผลให้หนังตาตกลืมตาได้ไม่เต็มที่ หนังตาตกอาจเกิดจากกล้ามเนื้อพัฒนาผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากความเสื่อมตามอายุ การขยี้ตาบ่อย โรคภูมิแพ้ หรือปัจจัยอื่นๆ หนังตาตกที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงส่งผลต่อการมองเห็นที่แคบลงและไม่ชัดเจน ในขณะเดียวกันอาการหนังตาตกยังทำให้ดวงตาดูง่วงปรือ แววตาดูหม่นหมอง และไม่สดใส หากหนังตาตกเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การมองเห็นลดลง ปวดล้าดวงตา หรือกระทบต่อความมั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อคืนความสดใสและความมั่นใจให้กับดวงตาอีกครั้ง   

หนังตาตกจากการบาดเจ็บ

หนังตาตกที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือความเสียหายของกล้ามเนื้อยกเปลือกตา ซึ่งมักเป็นผลมาจากการอุบัติเหตุที่ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาดจนไม่สามารถทำหน้าที่ในการยกเปลือกตาได้ตามปกติ นอกจากนี้พฤติกรรมการถูหรือขยี้ตาอย่างรุนแรงซ้ำๆ ยังสามารถทำให้กล้ามเนื้อยกเปลือกตาหลุดออกจากตำแหน่งยึด ส่งผลให้หนังตาตกและหย่อนคล้อยลงมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดความยากลำบากในการลืมตา แต่ยังอาจส่งผลต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์อีกด้วย

หนังตาตกจากความผิดปกติของเส้นประสาท

ภาวะหนังตาตกที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการยกเปลือกตา โดยสาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับการอุดตันของเส้นเลือดที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเส้นประสาท ส่งผลให้การส่งสัญญาณประสาทบกพร่อง กล้ามเนื้อที่ยกเปลือกตาจึงอ่อนแรงหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้หนังตาตกหย่อนคล้อยลงมา นอกจากนี้ความผิดปกติของเส้นประสาทดังกล่าวอาจทำให้เกิดอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาเหล่ ตาเข หรือการมองเห็นภาพซ้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพสายตาในระยะยาว การตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญ เพื่อแก้ไขภาวะหนังตาตกและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

หนังตาตกมีวิธีการรักษาอย่างไร?

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาหนังตาตก การแก้ไขหนังตาตกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหนังตาตก หรือระดับความรุนแรงของหนังตาตก โดยจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

โดยวิธีรักษาหนังตาตกที่ WE Clinic จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

  • หนังตาตกไม่มาก (Mild Ptosis)

: หนังตาตกเพียงเล็กน้อย  โดยทั่วไปหนังตาจะปกคลุมดวงตาไม่ถึง 1/3 ของกระจกตาส่วนบน ผู้ที่มีอาการระดับนี้อาจไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมากนักในการมองเห็นหรือรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัดนำหนังตาและไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาออก มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้น หนังตาตกเป็นสาเหตุที่หลายคนมักจะรู้สึกว่าดวงตาไม่สวย ทำให้ใบหน้าดุมีอายุ บางคนหนังตาไม่เท่ากัน ดูเหมือนมีชั้นตาหลบใน หรือมีชั้นตาไม่เท่ากัน ซึ่งหนังตาตกระดับดังกล่าวมักมีผลกระทบต่อการมองเห็นไม่มากนัก แต่ถ้าหากเริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตต้องรีบผ่าตัดแก้ไขด้วยการทำตาสองชั้นตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อแก้ปัญหาหนังตาตกให้ทันท่วงที

  • หนังตาตกมาก (Severe Ptosis)

: ในคนที่มีภาวะหนังตาตกมากๆ หรือหนังตาตกคลอบคลุมกระจกตาส่วนบนระหว่าง1/3 ถึง 2/3 หรือมากกว่านั้น มักจะมีผลกระทบมากต่อการมองเห็น จึงสมควรอย่างยิ่งในการแก้ไข โดยการผ่าตัดตาสองชั้นร่วมกับการยกคิ้วช่วย คุณหมอป่านจะใช้เทคนิคการผ่าตัดยกคิ้ว โดยจะซ่อนแผลไว้บริเวณแนวคิ้ว การปรับรูปคิ้วให้ยกขึ้นจะช่วยทำให้ใบหน้าและดวงตาดูสดใสมากขึ้น  ช่วยแก้ปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย ผลลัพธ์ที่ได้คือดวงตาดูเปิดกว้าง หนังตาไม่ตก และหางตายกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

  • หนังตาตกเนื่องจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

: การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จำเป็นต้องปรับแก้ที่กล้ามเนื้อตาที่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อเพื่อยกเปลือกตาให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ ที่WE Clinic คุณป่านจะเทคนิคที่ใช้คือ LIDLOCK (Ptosis Surgery) ซึ่งช่วยล็อกชั้นตาไม่ให้กลับมาตกอีกครั้ง ซึ่งมักทำควบคู่ไปกับการทำตาสองชั้น เพื่อช่วยปรับชั้นตาให้เหมาะกับใบหน้า ตัดแต่งหนังตา ตกแต่งไขมันส่วนเกิน ช่วยให้ดวงตาโตขึ้น มีตาดำชัดเจน แก้ปัญหาตาปรือและตาง่วงนอนอย่างมีประสิทธิภาพ 

แก้หนังตาตกที่ไหนดี?

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาหนังตาตกและกำลังมองหาคลินิกที่น่าเชื่อถือเพื่อแก้ไขหนังตาตก We Clinic พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ภายใต้การดูแลของ นายแพทย์ชุติธร จำเริญดารารัศมี (คุณหมอป่าน)แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในด้านการแก้ไขปัญหาหนังตาตกโดยเฉพาะ ด้วยเทคนิคศัลยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขหนังตาตกอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา การทำตาสองชั้น หรือการยกคิ้ว หากใครอยากมีดวงตาสดใส ดูเป็นธรรมชาติ ต้องแก้หนังตาตกกับหมอป่าน We Clinic เท่านั้น

ผ่าตัดแก้หนังตาตก ราคาเท่าไร

การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกที่ WE Clinic ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 28,900 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับทรงรูปตาเดิมหรือปัญหาของดวงตาในแต่ละคน ซึ่งความต้องการในการปรับเปลี่ยนของแต่ละคนนั้นจะไม่เท่ากัน บางคนต้องใช้เทคนิคอื่นๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้ได้รูปดวงตาที่ชื่นชอบ บวกกับความแตกต่างของรูปแบบเทคนิคในการทำแก้ไขหนังตาตก โดยขั้นตอนเหล่านี้สามารถปรึกษากับแพทย์ได้ทันทีด้วยการส่งรูปภาพดวงตามาให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินเบื้องต้น สำหรับรูปถ่ายนั้นจะมีข้อกำหนดดังนี้ 

How to การถ่ายรูปเพื่อใช้ประเมินหนังตาตก

  • จัดแสงสว่างให้เพียงพอ เน้นใช้แสงจากธรรมชาติและไม่ควรใช้แฟลช
  • ภาพถ่ายต้องเป็นภาพหน้าสด ไม่มีการแต่งเติมใดๆ ทั้งสิ้น
  • ห้ามมีการแต่งดวงตาอย่างเช่น การเขียนขอบตาหรือติดขนตาปลอมอยู่ต้องล้างออกให้หมด
  • ถอดคอนแทคเลนส์ออก เพื่อประเมินระดับกระจกตาผ่านตาดำโดยตรง
  • รูปถ่ายจะต้องเป็นรูปหน้าตรง ลืมตา มองกล้องในระดับตั้งฉาก 90 องศา
  • อีกรูปหนึ่งจะเป็นรูปหน้าตรง หลับตา ในระดับตั้งฉาก 90 องศา
  • ขณะถ่ายรูปให้มองตรง ลืมตา เลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง เพื่อประเมินระดับหนังตาที่ตกและสาเหตุอื่นๆร่วมด้วย
  • จากนั้นก็ส่งรูปให้กับแอดมิน ตามช่องทางติดต่อของคลินิกได้เลย

หนังตาตกหายเองได้หรือไม่?

หนังตาตกไม่สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติค่ะ  เนื่องจากสาเหตุหลักมาจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังที่เกิดขึ้นตามวัย หรือการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตา รวมถึงความผิดปกติของกล้ามเนื้อยกเปลือกตาที่ทำงานบกพร่อง ส่งผลให้เกิดภาวะหนังตาตกอย่างถาวร แม้ว่าหนังตาตกจะไม่สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติ แต่ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เช่นการทำตาสองชั้น การยกคิ้ว หรือ การผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อยกเปลือกตา การแก้ไขหนังตาตกก็เพื่อช่วยยกเปลือกตาให้เปิดกว้าง คืนความสดใสให้ดวงตา และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการมองเห็น ซึ่งปัญหาหนังตาตกไม่สามารถหายเองได้ค่ะ

ผ่าตัดแก้หนังตาตก บวมช้ำนานไหม?

หลายคนที่อยากแก้หนังตาตก อาจกังวลว่าอาการบวมช้ำจะกระทบการใช้ชีวิตหรือไม่? ขอให้สบายใจได้ค่ะ เพราะหลังแก้หนังตาตก จะพบอาการบวมเพียงเล็กน้อย ประมาณ 1 สัปดาห์ ที่ We Clinic เราใช้เทคนิคพิเศษและผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงช่วยลดอาการบวมช้ำไปได้เยอะ จนแทบไม่ต้องพักฟื้นค่ะ

วิธีดูแลตัวเองหลังแก้หนังตาตก

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผลสมานตัวอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน หลังจากการแก้ไขหนังตาตกควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

  1. ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรก หลังการแก้ไขหนังตาตก ให้ประคบเย็นรอบดวงตา เพื่อลดอาการบวมช้ำและช่วยให้บริเวณแผลฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  2. เปลี่ยนมาประคบอุ่นตั้งแต่วันที่ 6 เป็นต้นไป หลังจากวันที่ 6 ให้เริ่มประคบอุ่นบริเวณรอบดวงตาต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยลดอาการบวม
  3. รักษาความสะอาดรอบเปลือกตา ใช้สำลีก้านชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ รอบเปลือกตาอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและดูแลบริเวณดวงตาที่ผ่าตัดให้สะอาด
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำบริเวณดวงตา งดการโดนน้ำรอบดวงตาอย่างน้อย 10 วัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและช่วยให้แผลจากการแก้หนังตาตกสมานตัวได้ดีขึ้น
  5. ยกศีรษะสูงขณะนอนหลับ ในช่วง 7 วันแรกหลังการแก้หนังตาตก ควรนอนในท่าที่ศีรษะยกสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นบริเวณเปลือกตา
  6. หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ งดกิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น การออกกำลังกายที่หนัก การวิ่ง หรือกีฬาที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพื่อลดความเสี่ยงที่เหงื่อหรือสิ่งสกปรกจะสัมผัสกับแผลผ่าตัด
  7. ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประทานยา หยอดตา และป้ายขี้ผึ้งตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลผ่าตัดฟื้นตัวเร็วขึ้น

 การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้แผลจากการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมคืนความสดใสให้ดวงตาในระยะยาว

สรุป

หนังตาตกเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อทั้งการมองเห็นและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน การรักษาหนังตาตกควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อเลือกแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการปรับกล้ามเนื้อตา การทำตาสองชั้น หรือการยกคิ้ว การรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดจะช่วยฟื้นฟูดวงตาให้กลับมาสดใส ดูอ่อนเยาว์ และเสริมสร้างความมั่นใจ พร้อมป้องกันผลกระทบในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ

ปรึกษา เสริมคาง เสริมจมูก ออนไลน์
Line chat facebook chat