หนังตาตกถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายๆคน ภาวะหนังตาตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัยและมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน โดยอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง แม้ว่าอาการหนังตาตกจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแล อาจส่งผลต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตในระยะยาว มาร่วมกันค้นหาต้นตอที่ก่อให้เกิดภาวะหนังตาตกไปพร้อมๆกับ WE Clinic กันนะคะ
หนังตาตก คืออะไร
หนังตาตก (Ptosis Drooping Eyelids) คือ ภาวะที่หนังตาบนหย่อนคล้อยตกลงมาต่ำกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิต หนังตาตกมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นปิดบังม่านตาและบดบังตาดำจนกระทบต่อการมองเห็น สาเหตุของหนังตาตกเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด หรือมีการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาจากอายุที่เพิ่มขึ้น การสะสมของไขมันบริเวณหนังตาที่มากเกินไป หรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ในบางกรณีผู้ที่มีอาการหนังตาตกอาจต้องเงยหน้า หรือต้องเลิกหน้าผากบ่อยๆเพื่อพยายามปรับสายตาให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เสียบุคลิกภาพได้
อย่างไรก็ตาม หากภาวะหนังตาตกไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาการมองเห็นระยะยาว การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอาการหนังตาตกอย่างถูกต้องและตรงจุด
หนังตาตกมีลักษณะอย่างไร?
- ลืมตาได้ไม่เต็มที่ หนังตาด้านบนหย่อนคล้อยลงมาจนทำให้ไม่สามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่ โดยอาจเกิดขึ้นกับตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
- ตาดำถูกบดบัง เปลือกตาที่หย่อนลงมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ตาดำบางส่วนถูกบดบัง ซึ่งอาจกระทบต่อการมองเห็นโดยตรง
- ดวงตาดูปรือ หนังตาตกทำให้ดวงตาดูง่วงนอนหรือปรืออยู่ตลอดเวลา ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส
- การมองเห็นผิดปกติ หนังตาตกอาจทำให้เกิดอาการมองเห็นไม่ชัด ภาพซ้อน หรือตาพร่ามัว เนื่องจากเปลือกตาบดบังการมองเห็น
- อาการแทรกซ้อน ในบางกรณี หนังตาตกอาจทำให้เกิดภาวะตาล้า ตาแห้ง หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตาขี้เกียจ โดยเฉพาะในวัยเด็กที่พัฒนาการมองเห็นยังไม่สมบูรณ์
- ลักษณะตาไม่เท่ากัน อาจสังเกตเห็นได้ชัดว่าเปลือกตาทั้งสองข้างมีระดับที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งลักษณะของหนังตาตกที่พบได้บ่อย
ลักษณะของหนังตาตกเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อความสวยงามและความมั่นใจ แต่ยังอาจกระทบต่อการมองเห็นและการดำเนินชีวิตอีกด้วย หากพบลักษณะใดที่เข้าข่ายลักษณะของหนังตาตก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการประเมินและดูแลอย่างเหมาะสม
สาเหตุของหนังตาตก เกิดจากอะไรบ้าง
หนังตาตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะมีสาเหตุและปัจจัยหลายประการที่ทำให้หนังตาตกได้ ดังนี้
หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด
หนังตาตกตั้งแต่กำเนิดเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ควบคุมหนังตาตั้งแต่แรกเกิด ส่งผลให้เด็กที่มีภาวะหนังตาตกไม่สามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่ หรือพบลูกตาสองข้างไม่เท่ากันอย่างชัดเจน ภาวะหนังตาตกอาจทำให้เกิดปัญหาด้านการมองเห็น เนื่องจากหนังตาตกลงมาปิดบางส่วนของดวงตา ซึ่งอาจขัดขวางการพัฒนาทางสายตาของเด็ก หากปล่อยให้หนังตาตกไปต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่อาการตาขี้เกียจ (Amblyopia) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็นในระยะยาว และเป็นภาวะที่แก้ไขได้ยากเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การตรวจและรักษาภาวะหนังตาตกตั้งแต่อายุยังน้อยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันผลกระทบต่อการมองเห็นในอนาคต
หนังตาตกในผู้สูงอายุ
หนังตาตกในผู้สูงอายุ เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตา ซึ่งอาจยืดตัวหรือคลายออกจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน หรือไขมันพอกสะสมบริเวณเปลือกตา ซึ่งหนังตาตกมักบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น แม้ว่าภาวะหนังตาตกในระยะแรกอาจไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นมากนัก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแล อาการหนังตาตกอาจทวีความรุนแรงขึ้นจนรบกวนการมองเห็น หรือภาวะหนังตาตกอาจเป็นสัญญานบ่งชี้ถึงความผิดปกติที่ซ่อนอยู่อีกด้วย การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มสังเกตเห็นอาการหนังตาตก จึงเป็นสำคัญและสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
หนังตาตกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ช่วยเปิดเปลือกตา ส่งผลให้หนังตาตกลืมตาได้ไม่เต็มที่ หนังตาตกอาจเกิดจากกล้ามเนื้อพัฒนาผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากความเสื่อมตามอายุ การขยี้ตาบ่อย โรคภูมิแพ้ หรือปัจจัยอื่นๆ หนังตาตกที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงส่งผลต่อการมองเห็นที่แคบลงและไม่ชัดเจน ในขณะเดียวกันอาการหนังตาตกยังทำให้ดวงตาดูง่วงปรือ แววตาดูหม่นหมอง และไม่สดใส หากหนังตาตกเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การมองเห็นลดลง ปวดล้าดวงตา หรือกระทบต่อความมั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อคืนความสดใสและความมั่นใจให้กับดวงตาอีกครั้ง
หนังตาตกจากการบาดเจ็บ
หนังตาตกที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือความเสียหายของกล้ามเนื้อยกเปลือกตา ซึ่งมักเป็นผลมาจากการอุบัติเหตุที่ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาดจนไม่สามารถทำหน้าที่ในการยกเปลือกตาได้ตามปกติ นอกจากนี้พฤติกรรมการถูหรือขยี้ตาอย่างรุนแรงซ้ำๆ ยังสามารถทำให้กล้ามเนื้อยกเปลือกตาหลุดออกจากตำแหน่งยึด ส่งผลให้หนังตาตกและหย่อนคล้อยลงมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดความยากลำบากในการลืมตา แต่ยังอาจส่งผลต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์อีกด้วย
หนังตาตกจากความผิดปกติของเส้นประสาท
ภาวะหนังตาตกที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการยกเปลือกตา โดยสาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับการอุดตันของเส้นเลือดที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเส้นประสาท ส่งผลให้การส่งสัญญาณประสาทบกพร่อง กล้ามเนื้อที่ยกเปลือกตาจึงอ่อนแรงหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้หนังตาตกหย่อนคล้อยลงมา นอกจากนี้ความผิดปกติของเส้นประสาทดังกล่าวอาจทำให้เกิดอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาเหล่ ตาเข หรือการมองเห็นภาพซ้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพสายตาในระยะยาว การตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญ เพื่อแก้ไขภาวะหนังตาตกและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หนังตาตกมีวิธีการรักษาอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาหนังตาตก การแก้ไขหนังตาตกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหนังตาตก หรือระดับความรุนแรงของหนังตาตก โดยจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โดยวิธีรักษาหนังตาตกที่ WE Clinic จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
- หนังตาตกไม่มาก (Mild Ptosis)
: หนังตาตกเพียงเล็กน้อย โดยทั่วไปหนังตาจะปกคลุมดวงตาไม่ถึง 1/3 ของกระจกตาส่วนบน ผู้ที่มีอาการระดับนี้อาจไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมากนักในการมองเห็นหรือรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัดนำหนังตาและไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาออก มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้น หนังตาตกเป็นสาเหตุที่หลายคนมักจะรู้สึกว่าดวงตาไม่สวย ทำให้ใบหน้าดุมีอายุ บางคนหนังตาไม่เท่ากัน ดูเหมือนมีชั้นตาหลบใน หรือมีชั้นตาไม่เท่ากัน ซึ่งหนังตาตกระดับดังกล่าวมักมีผลกระทบต่อการมองเห็นไม่มากนัก แต่ถ้าหากเริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตต้องรีบผ่าตัดแก้ไขด้วยการทำตาสองชั้นตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อแก้ปัญหาหนังตาตกให้ทันท่วงที
- หนังตาตกมาก (Severe Ptosis)
: ในคนที่มีภาวะหนังตาตกมากๆ หรือหนังตาตกคลอบคลุมกระจกตาส่วนบนระหว่าง1/3 ถึง 2/3 หรือมากกว่านั้น มักจะมีผลกระทบมากต่อการมองเห็น จึงสมควรอย่างยิ่งในการแก้ไข โดยการผ่าตัดตาสองชั้นร่วมกับการยกคิ้วช่วย คุณหมอป่านจะใช้เทคนิคการผ่าตัดยกคิ้ว โดยจะซ่อนแผลไว้บริเวณแนวคิ้ว การปรับรูปคิ้วให้ยกขึ้นจะช่วยทำให้ใบหน้าและดวงตาดูสดใสมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย ผลลัพธ์ที่ได้คือดวงตาดูเปิดกว้าง หนังตาไม่ตก และหางตายกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- หนังตาตกเนื่องจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
: การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จำเป็นต้องปรับแก้ที่กล้ามเนื้อตาที่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อเพื่อยกเปลือกตาให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ ที่WE Clinic คุณป่านจะเทคนิคที่ใช้คือ LIDLOCK (Ptosis Surgery) ซึ่งช่วยล็อกชั้นตาไม่ให้กลับมาตกอีกครั้ง ซึ่งมักทำควบคู่ไปกับการทำตาสองชั้น เพื่อช่วยปรับชั้นตาให้เหมาะกับใบหน้า ตัดแต่งหนังตา ตกแต่งไขมันส่วนเกิน ช่วยให้ดวงตาโตขึ้น มีตาดำชัดเจน แก้ปัญหาตาปรือและตาง่วงนอนอย่างมีประสิทธิภาพ
แก้หนังตาตกที่ไหนดี?
หากคุณกำลังเผชิญปัญหาหนังตาตกและกำลังมองหาคลินิกที่น่าเชื่อถือเพื่อแก้ไขหนังตาตก We Clinic พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ภายใต้การดูแลของ นายแพทย์ชุติธร จำเริญดารารัศมี (คุณหมอป่าน)แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในด้านการแก้ไขปัญหาหนังตาตกโดยเฉพาะ ด้วยเทคนิคศัลยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขหนังตาตกอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา การทำตาสองชั้น หรือการยกคิ้ว หากใครอยากมีดวงตาสดใส ดูเป็นธรรมชาติ ต้องแก้หนังตาตกกับหมอป่าน We Clinic เท่านั้น
ผ่าตัดแก้หนังตาตก ราคาเท่าไร
การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกที่ WE Clinic ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 28,900 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับทรงรูปตาเดิมหรือปัญหาของดวงตาในแต่ละคน ซึ่งความต้องการในการปรับเปลี่ยนของแต่ละคนนั้นจะไม่เท่ากัน บางคนต้องใช้เทคนิคอื่นๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้ได้รูปดวงตาที่ชื่นชอบ บวกกับความแตกต่างของรูปแบบเทคนิคในการทำแก้ไขหนังตาตก โดยขั้นตอนเหล่านี้สามารถปรึกษากับแพทย์ได้ทันทีด้วยการส่งรูปภาพดวงตามาให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินเบื้องต้น สำหรับรูปถ่ายนั้นจะมีข้อกำหนดดังนี้
How to การถ่ายรูปเพื่อใช้ประเมินหนังตาตก
- จัดแสงสว่างให้เพียงพอ เน้นใช้แสงจากธรรมชาติและไม่ควรใช้แฟลช
- ภาพถ่ายต้องเป็นภาพหน้าสด ไม่มีการแต่งเติมใดๆ ทั้งสิ้น
- ห้ามมีการแต่งดวงตาอย่างเช่น การเขียนขอบตาหรือติดขนตาปลอมอยู่ต้องล้างออกให้หมด
- ถอดคอนแทคเลนส์ออก เพื่อประเมินระดับกระจกตาผ่านตาดำโดยตรง
- รูปถ่ายจะต้องเป็นรูปหน้าตรง ลืมตา มองกล้องในระดับตั้งฉาก 90 องศา
- อีกรูปหนึ่งจะเป็นรูปหน้าตรง หลับตา ในระดับตั้งฉาก 90 องศา
- ขณะถ่ายรูปให้มองตรง ลืมตา เลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง เพื่อประเมินระดับหนังตาที่ตกและสาเหตุอื่นๆร่วมด้วย
- จากนั้นก็ส่งรูปให้กับแอดมิน ตามช่องทางติดต่อของคลินิกได้เลย
หนังตาตกหายเองได้หรือไม่?
หนังตาตกไม่สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติค่ะ เนื่องจากสาเหตุหลักมาจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังที่เกิดขึ้นตามวัย หรือการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตา รวมถึงความผิดปกติของกล้ามเนื้อยกเปลือกตาที่ทำงานบกพร่อง ส่งผลให้เกิดภาวะหนังตาตกอย่างถาวร แม้ว่าหนังตาตกจะไม่สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติ แต่ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เช่นการทำตาสองชั้น การยกคิ้ว หรือ การผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อยกเปลือกตา การแก้ไขหนังตาตกก็เพื่อช่วยยกเปลือกตาให้เปิดกว้าง คืนความสดใสให้ดวงตา และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการมองเห็น ซึ่งปัญหาหนังตาตกไม่สามารถหายเองได้ค่ะ
ผ่าตัดแก้หนังตาตก บวมช้ำนานไหม?
หลายคนที่อยากแก้หนังตาตก อาจกังวลว่าอาการบวมช้ำจะกระทบการใช้ชีวิตหรือไม่? ขอให้สบายใจได้ค่ะ เพราะหลังแก้หนังตาตก จะพบอาการบวมเพียงเล็กน้อย ประมาณ 1 สัปดาห์ ที่ We Clinic เราใช้เทคนิคพิเศษและผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงช่วยลดอาการบวมช้ำไปได้เยอะ จนแทบไม่ต้องพักฟื้นค่ะ
วิธีดูแลตัวเองหลังแก้หนังตาตก
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผลสมานตัวอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน หลังจากการแก้ไขหนังตาตกควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
- ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรก หลังการแก้ไขหนังตาตก ให้ประคบเย็นรอบดวงตา เพื่อลดอาการบวมช้ำและช่วยให้บริเวณแผลฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- เปลี่ยนมาประคบอุ่นตั้งแต่วันที่ 6 เป็นต้นไป หลังจากวันที่ 6 ให้เริ่มประคบอุ่นบริเวณรอบดวงตาต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยลดอาการบวม
- รักษาความสะอาดรอบเปลือกตา ใช้สำลีก้านชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ รอบเปลือกตาอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและดูแลบริเวณดวงตาที่ผ่าตัดให้สะอาด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำบริเวณดวงตา งดการโดนน้ำรอบดวงตาอย่างน้อย 10 วัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและช่วยให้แผลจากการแก้หนังตาตกสมานตัวได้ดีขึ้น
- ยกศีรษะสูงขณะนอนหลับ ในช่วง 7 วันแรกหลังการแก้หนังตาตก ควรนอนในท่าที่ศีรษะยกสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นบริเวณเปลือกตา
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ งดกิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น การออกกำลังกายที่หนัก การวิ่ง หรือกีฬาที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพื่อลดความเสี่ยงที่เหงื่อหรือสิ่งสกปรกจะสัมผัสกับแผลผ่าตัด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประทานยา หยอดตา และป้ายขี้ผึ้งตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลผ่าตัดฟื้นตัวเร็วขึ้น
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้แผลจากการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมคืนความสดใสให้ดวงตาในระยะยาว
สรุป
หนังตาตกเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อทั้งการมองเห็นและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน การรักษาหนังตาตกควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อเลือกแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการปรับกล้ามเนื้อตา การทำตาสองชั้น หรือการยกคิ้ว การรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดจะช่วยฟื้นฟูดวงตาให้กลับมาสดใส ดูอ่อนเยาว์ และเสริมสร้างความมั่นใจ พร้อมป้องกันผลกระทบในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ