คางยื่นเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร? ไขคำตอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

คางยื่นไม่ได้เป็นเพียงปัญหาด้านความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ ความมั่นใจ สุขภาพช่องปาก หรือแม้แต่การเคี้ยวอาหาร หลายคนอาจรู้สึกไม่กล้ายิ้มเต็มที่ 

คางยื่นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งแต่ละปัจจัยก็มีแนวทางการแก้คางยื่นที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ WE Clinic จะพาคุณทำความเข้าใจปัญหาคางยื่นให้ลึกขึ้นว่าคางยื่นเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

คางยื่นคืออะไร เกิดจากอะไร

คางยื่นคืออะไร เกิดจากอะไร

คางยื่น (Prognathism) คือภาวะที่คางหรือขากรรไกรล่างยื่นออกมามากกว่าปกติ จนทำให้สัดส่วนของใบหน้าเสียสมดุล โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้าง จะพบว่า 

  1. ริมฝีปากล่างยื่นมาข้างหน้า มากกว่าริมฝีปากบน 
  2. กล้ามเนื้อและกระดูกปลายคาง ยื่นมาข้างหน้ามากกว่าริมฝีปากล่าง

 ใบหน้าอาจดูแข็ง ไม่ละมุน หรือขาดความกลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผากและจมูก คางยื่นไม่ได้กระทบเพียงเรื่องความสวยงาม 

แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน เช่น การสบฟันไม่พอดี เคี้ยวอาหารไม่ถนัด หรือบางคนพูดไม่ชัดเจน ทั้งหมดนี้สามารถส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีปัญหาคางยื่นได้อย่างมาก

โดยทั่วไปคางยื่นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรม, การเจริญเติบโตของโครงกระดูกขากรรไกรที่ผิดปกติ,ความผิดปกติของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า หรือแม้แต่ความไม่สมดุลของโครงสร้างใบหน้า  

 สามารถแก้ไขด้วยการจัดฟัน ,  เสริมคางแผลนอก หรือการผ่าตัดขากรรไกร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาและประเมินอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเลือกแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด

 

สาเหตุของคางยื่น

เผย 7 สาเหตุของคางยื่น   

สาเหตุที่คางยื่นสามารถเกิดได้หลากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้ 

  1. พันธุกรรม ถือเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด หากในครอบครัวมีลักษณะขากรรไกรล่างยาวหรือคางยื่น ลูกหลานก็มักมีโอกาสได้รับลักษณะนี้เช่นเดียวกัน เพราะการเจริญเติบโตของโครงกระดูกถูกควบคุมโดยพันธุกรรมโดยตรง
  2. ความผิดปกติในการเจริญเติบโตของกระดูก ในวัยเด็กหรือวัยรุ่น หากขากรรไกรล่างเจริญมากกว่าขากรรไกรบน จะทำให้แนวคางยื่นออกมาอย่างชัดเจน ปัญหานี้มักจะค่อย ๆ สังเกตเห็นได้มากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น
  3. ฮอร์โมนการเจริญเติบโตผิดปกติ ฮอร์โมนที่หลั่งออกมามากเกินไป เช่น ในผู้ป่วย Acromegaly อาจกระตุ้นให้กระดูกขากรรไกรล่างโตเกินกว่าปกติ ทำให้คางยื่นจนผิดสัดส่วน

: โรค Acromegaly คืออะไร? เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมน(Growth Hormone)ออกมามากผิดปกติ ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตไม่สมส่วน เช่น กระดูกใหญ่ เนื้อเยื่อเจริญเติบโตเกินกว่าปกติ 

  1. ความผิดปกติที่มีมาตั้งแต่กำเนิด โรคบางชนิด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ หรือความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่เกิดตั้งแต่แรกเกิด สามารถทำให้ขากรรไกรบนพัฒนาน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้คางล่างดูยื่นออกมาเด่นขึ้น
  2. พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมในวัยเด็ก นิสัยการดูดนิ้ว การใช้ลิ้นดันฟัน หรือการหายใจทางปากในระยะยาว ล้วนส่งผลต่อการเจริญของโครงสร้างใบหน้า และอาจทำให้คางยื่นในอนาคต
  3. การเรียงตัวของฟันผิดปกติ ฟันสบคร่อม หรือฟันล่างยื่นออกมามากกว่าฟันบน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คางดูยื่นชัดเจนขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้เกิดจากโครงกระดูกโดยตรง แต่ก็ส่งผลต่อภาพรวมของใบหน้า
  4. การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ การกระแทกหรือบาดเจ็บที่กระดูกขากรรไกร โดยเฉพาะในช่วงวัยที่กระดูกยังเจริญเติบโต อาจทำให้โครงสร้างผิดรูปและนำไปสู่ภาวะคางยื่นในระยะยาวได้
คางยื่นมีกี่ประเภท

คางยื่นมีกี่ประเภท?

คางยื่นสามารถแบ่งออกได้ตามสาเหตุและโครงสร้างหลัก ๆ 3 ประเภท ดังนี้

  1. กระดูกขากรรไกร เกิดจากการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่างที่มากเกินไป หรือในบางกรณีขากรรไกรบนเจริญน้อยเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจึงทำให้คางดูยื่นชัดเจน มักมีผลต่อโครงหน้าโดยรวม ต้องรักษาด้วยการศัลยกรรม
  2. คางยื่นจากการสบฟัน (Dental Prognathism) บางคนโครงกระดูกอาจไม่ได้ยื่นมาก แต่ฟันล่างมีลักษณะคร่อมฟันบน (Underbite) ทำให้เวลามองจากภายนอกดูเหมือนคางยื่น  ทั้งที่จริงแล้วเกิดจากการเรียงตัวของฟันผิดปกติ ซึ่งการแก้ไขอาจทำได้ด้วยการจัดฟันหรือการรักษาทางทันตกรรม
  3. กระดูกปลายคางนูนออกมาด้านหน้า มักเกิดจากกรรมพันธุ์ สังเกตุได้จากเวลาสัมผัสกระดูกปลายคาง จะพบกระดูกนูนมาข้างหน้า มักทำให้คางดูตัดหรือบุ๋ม สามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัด
  4. จากกล้ามเนื้อคางใหญ่ หนาตัวกว่าปกติ กล้ามเนื้อคาง (Mentaks muscle) เป็นส่วนที่ช่วยควบคุมกล้ามเนื้อ เกี่ยวกับการแสดงสีหน้าหรือการเคลื่อนไหวของปาก  หากมีขนาดใหญ่ จะสังเกตุเห็นเป็นกล้ามเนื้อนิ่มๆ อยู่บริเวณหน้าคาง  ขยับได้ตามท่าทางปากการพูด ในเคสเช่นนี้สามารถแก้ไขด้วยการฉีด Botulinum toxin  (Botox) ในบางรายมักพบหลายปัญหาร่วมกัน

แนวทางการรักษาคางยื่น

1. การเสริมคาง

การเสริมคางเหมาะสำหรับผู้ที่คางยื่น โดยริมฝีปากล่างจะต้องไม่ยื่นเกินกว่าริมฝีปากบน เพราะไม่ได้ยื่นจากโครงกระดูกจริง ๆ การเสริมคางจะช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้น โดยแพทย์จะวางซิลิโคนบริเวณปลายคางและเหลาทรงให้เข้ากับโครงหน้า ไม่ให้ยื่นเกินแนวริมฝีปากล่าง ทำให้ได้คางที่เรียวยาวและรับกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

2. การจัดฟัน

หากคางยื่นเกิดจากฟันล่างคร่อมฟันบน (underbite) และปัญหาไม่รุนแรงมาก การจัดฟันสามารถแก้ได้ โดยปรับตำแหน่งการสบฟันให้ปกติ ช่วยให้รูปหน้าดูสมดุลขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ข้อจำกัดคือใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผล

3. การผ่าตัดขากรรไกร

เหมาะสำหรับผู้ที่คางยื่นจากโครงกระดูกหรือมีความรุนแรง การผ่าตัดจะช่วยเลื่อนขากรรไกรล่าง (หรือบางครั้งรวมถึงขากรรไกรบน) ให้กลับสู่ตำแหน่งที่สมดุล เห็นผลชัดเจนที่สุด แต่ควรทำเมื่ออายุเกิน 18–20 ปี เพื่อให้แน่ใจว่ากระดูกหยุดเจริญแล้ว

4. การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

ในผู้ที่มีปัญหาทั้งการสบฟันและโครงกระดูกพร้อมกัน วิธีนี้คือคำตอบที่ครบที่สุด โดยแพทย์จะจัดฟันก่อนและหลังการผ่าตัดขากรรไกรหรืออาจจะเสริมคางร่วมด้วย

ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา เพื่อให้ทั้งตำแหน่งฟันและโครงกระดูกเข้าที่พร้อมกัน แม้ใช้เวลานานและซับซ้อน แต่เป็นวิธีที่แก้คางยื่นได้ถาวรและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุด

สัญญาณเช็กคางยื่น

คางยื่นไหม? เช็ก 5 สัญญาณง่าย ๆ ที่บ้าน

หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่าตัวเองมี “คางยื่น” หรือไม่ เพราะคุ้นเคยกับใบหน้ามานาน แต่จริง ๆ แล้วสามารถสังเกตได้จากอาการและลักษณะบางอย่างที่เห็นชัดในชีวิตประจำวัน ลองเช็กจาก 5 ข้อนี้ดูค่ะ

  1. ขากรรไกรล่างยื่นออกมามากกว่าปกติ
    เวลามองจากด้านข้างจะเห็นว่าคางล่างยื่นนำหน้าใบหน้าส่วนอื่น บางรายอาจรู้สึกว่าหน้าดูแข็งหรือขาดความละมุน แม้ดวงตาจะสวยหรือจมูกโด่ง แต่คางที่เด่นเกินไปก็ทำให้ภาพรวมของใบหน้าเสียสมดุล
  2. ฟันล่างคร่อมฟันบน
    ปกติแล้วฟันบนจะครอบฟันล่าง แต่ถ้ากลับกันคือฟันล่างคร่อมฟันบน ถือเป็นสัญญาณสำคัญของคางยื่น ซึ่งทำให้การสบฟันผิดปกติ และยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันสึกหรือเคี้ยวไม่ถนัดในระยะยาว
  3. กัดฟันหน้าไม่ถนัด
    ผู้ที่มีคางยื่นมักไม่สามารถกัดอาหารด้วยฟันหน้าได้ตามปกติ เช่น การกัดเส้นก๋วยเตี๋ยว ผักใบยาว หรือผลไม้ชิ้นเล็ก ๆ มักกัดไม่ขาด ต้องใช้ฟันกรามช่วยแทน 

ปัญหานี้แม้จะดูเล็กน้อย แต่เป็นตัวบ่งชี้ความผิดปกติของขากรรไกรได้อย่างชัดเจน

  1. พูดบางคำไม่ชัดเจน
    เมื่อการสบฟันผิดปกติ การออกเสียงบางคำ โดยเฉพาะเสียงที่ต้องใช้ฟันหน้า เช่น “ซ” หรือ “ฟ” อาจออกไม่ชัด ทำให้สื่อสารยากขึ้นหรือเสียความมั่นใจเวลาพูดต่อหน้าคนอื่น
  2. เคี้ยวอาหารลำบากและเมื่อยขากรรไกร
    การสบฟันไม่ตรงกันส่งผลต่อการเคี้ยวโดยตรง หลายคนต้องใช้แรงมากขึ้นในการบดเคี้ยว ทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด บางรายอาจมีอาการเมื่อยหรือล้าบริเวณขากรรไกรร่วมด้วย ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจกระทบต่อข้อต่อขากรรไกร (TMJ) ได้

ผ่าตัดศัลยกรรมก่อนหรือหลังจัดฟันดี?

หลายคนที่มีภาวะคางยื่นหรือปัญหาโครงขากรรไกร มักสงสัยว่า “ควรจัดฟันก่อนหรือผ่าตัดก่อน” คำตอบขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาและแผนการรักษาที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวางไว้

โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 3 แนวทาง ดังนี้ครับ

จัดฟันก่อนผ่าตัด

แนวทางที่พบได้บ่อยที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีการเรียงตัวของฟันผิดปกติหรือมีปัญหาการสบฟันร่วมด้วย การจัดฟันช่วยปรับตำแหน่งฟันให้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง

ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าตัดขากรรไกร เพื่อให้โครงกระดูกปรับเข้ากับตำแหน่งฟันใหม่ ผลลัพธ์คือรูปหน้าที่สมดุลและการสบฟันที่ถูกต้องในระยะยาว

ผ่าตัดก่อนจัดฟัน

เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติของโครงกระดูกอย่างชัดเจน เช่น ขากรรไกรยื่นหรือถอยรุนแรง กระทบต่อการหายใจหรือการเคี้ยวอาหาร 

การผ่าตัดก่อนจะช่วยจัดโครงกระดูกให้สมดุลเสียก่อน จากนั้นจึงจัดฟันตามมาเพื่อปรับการเรียงตัวของฟันให้เข้ากับโครงหน้าใหม่

จัดฟันและผ่าตัดไปพร้อมกัน

ใช้ในบางเคสที่ซับซ้อน แพทย์อาจเลือกจัดฟันและผ่าตัดในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อลดระยะเวลาการรักษาและแก้ไขทั้งปัญหาฟันและโครงกระดูกไปพร้อม ๆ กัน 

วิธีนี้ช่วยให้การรักษาเสร็จเร็วขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ทั้งด้านการสบฟันและความสมดุลของใบหน้า

คางยื่นแก้ไขได้โดยไม่ผ่าตัดมีวิธีไหนบ้าง?

แม้ว่าการผ่าตัดจะเป็นวิธีที่แก้ปัญหาคางยื่นได้ชัดเจนและถาวรที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นทางเลือกเดียวเสมอไป สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเข้ารับการผ่าตัด ปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้นได้โดยไม่ต้องพัก

วิธีเหล่านี้แม้ไม่สามารถแก้ไขที่ “ต้นเหตุของกระดูก” ได้ แต่ก็ช่วยลดความรู้สึกว่าคางยื่นเกินจริง และเสริมความมั่นใจในชีวิตประจำวันได้ไม่น้อย

คางยื่นแก้ไขได้โดยไม่ผ่าตัดมีวิธีไหนบ้าง

1.การจัดฟัน (Orthodontic Treatment)

ถ้าคางยื่นเกิดจากฟันล่างคร่อมฟันบนหรือการสบฟันที่ผิดปกติ การจัดฟันถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ไขโดยไม่ต้องผ่าตัด 

เมื่อฟันถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง การสบฟันจะสมดุลมากขึ้น ส่งผลให้โครงหน้าโดยรวมดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในบางกรณีอาจต้องถอนฟันหรือใช้รีเทนเนอร์ร่วมด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่มั่นคง

2.การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler)

ฟิลเลอร์ไม่ได้แก้ปัญหาคางยื่นจริง ๆ แต่ช่วยพรางตาให้รูปหน้าดูสมส่วนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่คางยื่นเพียงเล็กน้อยหรือมีปัญหาคางถอยร่วมด้วย 

แพทย์จะฉีดเติมในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อปรับสัดส่วนให้สมดุลกับใบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นกับชนิดฟิลเลอร์และการดูแลหลังทำ

3.การฉีดโบท็อกซ์ที่กรามหรือกล้ามเนื้อคาง (Botox for Masseter/Chin Muscle)

ในบางราย คางดูยื่นไม่ใช่เพราะโครงกระดูก แต่เพราะกล้ามเนื้อคางหดรั้งมากเกินไป หรือกรามเด่นเกินจริง การฉีดโบท็อกซ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดแรงดึงรั้ง 

และทำให้กรอบหน้าดูเรียวลง ใบหน้าดูนุ่มนวลขึ้น วิธีนี้แม้ผลอยู่ได้เพียง 4–6 เดือน แต่ก็ช่วยให้คางไม่เด่นจนเกินไป

การเตรียมตัวก่อนแก้ไขคางยื่น

การเตรียมตัวก่อนแก้ไขคางยื่น

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขคางยื่น การเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมถือว่าสำคัญมาก เพราะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

ปรึกษาแพทย์แก้ปัญหาคางยื่น

1.ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เลือกปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมขากรรไกรหรือโครงสร้างใบหน้า เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนการรักษา ผลลัพธ์ที่คาดหวัง 

และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งตรวจร่างกายและประเมินโครงหน้าก่อนวางแผนการผ่าตัด

2.แจ้งประวัติทางการแพทย์ครบถ้วน

บอกแพทย์ถึงโรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ อาการแพ้ยา หรือประวัติการผ่าตัดที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างปลอดภัยและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน

3.งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

เช่น แอสไพริน หรือยาต้านการอักเสบบางชนิด แพทย์จะกำหนดระยะเวลาที่ควรหยุดใช้ก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเลือดออกมากผิดปกติระหว่างผ่าตัด

4.งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์

ทั้งบุหรี่และแอลกอฮอล์ทำให้แผลหายช้า เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ และรบกวนการฟื้นตัว ควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังแก้ไขคางยื่น

การดูแลตัวเองหลังแก้ไขคางยื่น
  • ประคบถูกวิธี ช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ใช้ประคบเย็นช่วยลดบวมและช้ำ พอเข้าวันที่ 4 เปลี่ยนเป็นประคบอุ่นต่อได้เลย แล้วหยุดเมื่อบวมลดลงครับ
  • แผลห้ามโดนน้ำ รอให้แผลแห้งและตัดไหมเรียบร้อยก่อน ห้ามเอาน้ำโดนแผลเด็ดขาด และอย่าแคะเกา หรือทายาแปลก ๆ ที่หมอไม่ได้ให้มา
  • วิธีนอนสำคัญมาก ควรหนุนหมอนสูงในช่วง 1–2 สัปดาห์แรกเพื่อลดบวม และเลี่ยงนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในเดือนแรก เพราะอาจกดรูปคางจนเสียทรงได้
  • งดกิจกรรมเสี่ยง ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อแรงกระแทก ควรงดไปก่อน 1–2 เดือน รวมถึงเลี่ยงการเอาลิ้นดุนคางหรือเผลอกดทับตรงแผลด้วยครับ
  • ทานยาตามที่หมอสั่ง ยาที่หมอให้ต้องทานให้ครบทุกมื้อทุกวัน และอาหารควรเลือกแบบปรุงสุกสะอาด งดอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล ของหมักดอง รวมถึงบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน
  • หมั่นเช็กอาการ ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดบวมมากขึ้น เลือดออกมาก หรือแผลมีหนอง ให้รีบติดต่อหมอทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้

แก้คางยื่น เสริมคางราคาเท่าไร

แก้คางยื่น เสริมคางราคาเท่าไร

การแก้ไขคางยื่นด้วยการเสริมคางมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันตามเทคนิคและความซับซ้อนของเคส ที่ WE Clinic เราให้บริการเสริมคางเพื่อปรับรูปหน้าให้สมดุล 

ราคาเริ่มต้นเพียง 19,900 บาท (จากปกติ 25,000 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ ฟรีตะไบคางมูลค่า 5,000 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมรีวิว 

โดยทุกเคสจะได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายและวิธีการรักษาให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคางยื่น

Q: คางยื่นเกิดจากอะไร

คางยื่นเกิดจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม ทำให้ขากรรไกรล่างเจริญเติบโตมากกว่าปกติ, ความผิดปกติของฮอร์โมน ส่งผลให้ขากรรไกรเติบโตมากเกินไป, 

หรือความผิดปกติจาก กรรมพันธุ์ ที่ส่งต่อมาจากคนในครอบครัว. บางกรณีอาจเกิดจาก การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ ที่ส่งผลกระทบต่อกระดูกขากรรไกร หรือความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่

Q: คางยื่นจัดฟันหายไหม?

A: การจัดฟันสามารถช่วยแก้คางยื่นได้ในบางกรณี โดยเฉพาะเมื่อปัญหาเกิดจากฟันไม่สบกัน แต่ถ้าสาเหตุหลักมาจากโครงสร้างกระดูกขากรรไกร 

การจัดฟันอย่างเดียวอาจไม่พอ จำเป็นต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรหรือเสริมคาง จึงจะแก้ไขได้จริงและเห็นผลชัดเจนที่สุด

Q: คางยื่นเสริมคางได้ไหม

A: สำหรับคนไข้ที่คางยื่นอยู่แล้ว ในบางกรณีสามารถเสริมได้ คุณหมอจะวางซิลิโคนบริเวณตำแหน่งปลายคาง จะปรับเหลาซิลิโคนเพื่อปรับลดความยื่น 

ให้เหมาะสมคนไข้ในแต่ละเคส และจะดูองศาคาง ไม่ให้เกินบริเวณปากล่าง จะทำให้ทรงคางที่เสริมออกมาไม่งอนเป็นมะม่วง คางจะเป็นทรงขึ้นหน้าเรียว รับกับรูปหน้า

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ

ปรึกษา เสริมคาง เสริมจมูก ออนไลน์
Line chat facebook chat