สำหรับใครที่อยากเสริมคางให้ใบหน้าดูสวยและได้รูปแบบเป็นธรรมชาติ นอกจากจะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเสริมคาง การเลือกคลินิกที่เชี่ยวชาญและทีมแพทย์ที่มากประสบการณ์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้เลยก็คือ ผลข้างเคียงหรือปัญหาหลังการเสริมคางที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งบทความนี้จะมาบอกว่า เคสที่พบเห็นได้บ่อย และเป็นปัญหาที่ทำให้หลายๆ คนกังวลเกี่ยวกับการเสริมคางนั้นมีอะไรบ้าง จริงๆ แล้วเสริมคางกี่วันจึงจะเข้าที่ หายบวม รวมถึงวิธีการปฏิบัติตัวหลังการเสริมคางที่ควรทำคืออะไร เพื่อให้คุณได้คางที่สวยสมใจและตรงกับทรงที่อยากได้มากที่สุด
เสริมคางกี่วันเข้าที่ หายบวม
ก่อนทำการเสริมคาง หลายคนอาจจะกังวลเรื่องอาการบวม ช้ำ หรือเข้าที่ช้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอาจทำให้คุณต้องหยุดงานเพื่อพักฟื้นเพิ่มขึ้น แต่โดยปกติแล้วหลังจากเสริมคางจะมีอาการบวมอยู่เพียง 3-7 วัน และหลังจากนั้นอาการบวมก็จะค่อยๆ ลดน้อยลง และเริ่มเห็นรูปของคางใหม่ภายใน 1-3 เดือนหลังการทำ
ถ้าหากกคุณเลือกเสริมคางกับคลินิกและแพทย์ที่น่าเชื่อถือก็จะได้ผ่าตัดด้วยเทคนิคที่ช่วยทำให้คางเข้ารูปสวยได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับบางคนอาจเกิดปัญหาเสริมคางแล้วเป็นก้อน เสริมคางแล้วไม่เข้าที่ได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการผ่าตัด การดูแลตนเอง ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ ที่คุณสามารถขอรับปรึกษาแพทย์ที่ดูแล เพื่อหาทางแก้ไขเพื่อให้คางเข้าที่และได้รูปตามอุดมคติมากที่สุด
เสริมคางแล้วเป็นก้อนทำอย่างไร
ส่วนใครที่เคยเสริมคางแล้วเป็นก้อน แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ประเมินและหาวิธีแก้ไขแบบตรงจุดที่สุด แต่โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะใช้เทคนิคการผ่าตัดและเสริมซิลิโคนคางเข้าไปใหม่ เนื่องจากการเสริมคางแล้วเป็นก้อนมักเกิดจากการวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง ไม่เป็นไปตามองศาและรูปหน้า, การใส่ซิลิโคนใหญ่เกินไป หรือการฉีดฟิลเลอร์ซ้ำๆ บ่อยๆ จนทำให้คางดูเป็นก้อน ผิดจากรูปทรงปกติ
ซึ่งการผ่าตัดนั้นจะเปิดแผลจากภายนอกเพียง 1-1.5 เซนติเมตรเท่านั้น หรือถ้าในเคสที่ฉีดฟิลเลอร์มาก่อนก็อาจจะต้องทำการขูดฟิลเลอร์ตามผิวคางออกก่อนจะเสริมซิลิโคนเข้าไปใหม่อีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาการเสริมคางแล้วมีโอกาสที่จะเกิดเป็นก้อนในภายหลังได้
เสริมคางบวมไม่เท่ากันเกิดจากอะไร
หากเสริมคางแล้วบวมไม่เท่ากันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- เกิดจากการเสริมซิลิโคนที่ไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปทำให้คางดูบวมและเอียงไม่เท่ากัน
- การดูแลตนเองที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้แผลจากการเสริมคางติดเชื้อ จนเกิดอาการบวมไม่เท่ากัน
- เคยมีประวัติการฉีดฟิลเลอร์ปลอม สารเหลว ไม่ได้มาตรฐาน หากฟิลเลอร์ไม่ได้สลายไปจนหมดก็อาจทำให้คางดูบวม ผิดรูปได้
- เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมหรือเส้นประสาทอักเสบได้
ปัญหาหลังเสริมคางมีอะไรบ้าง
ปัญหาหลังการเสริมคางที่คุณอาจเจอได้จากการเสริมคางที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการดูแลตัวเองที่ไม่ดีพอ เช่น
- อาการคางเบี้ยวหรือคางเอียง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กระทบกระเทือนกับคางอย่างรุนแรง ในช่วงแรก, การนั่งเท้าคาง, การเสริมซิลิโคนที่ไม่เท่ากัน
- อาการคางแหลมยื่นออกมา ส่วนใหญ่เกิดจากการที่แพทย์ผ่าตัดเลาะช่องว่างเหนือกระดูกคางเดิมไม่เท่ากันหรือไม่พอดี ทำให้จัดวางซิลิโคนได้ไม่ตรงตำแหน่ง จนคางดูยื่นหรือเบี้ยวผิดสัดส่วน
- อาการเสริมคางแล้วเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การวางลิโคนห้อยลงมาด้านล่างมากเกินไป, การฉีดฟิลเลอร์ซ้ำๆ , การใส่ซิลิโคนโดยไม่ผ่านการเหลา
อาการคางบวม หรืออักเสบเกินกว่าปกติ - เสริมคางแล้วเป็นไตนูน
- อาการคางทะลุ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ซิลิโคนมีขนาดไม่พอดีกับโครงหน้าเดิม หากซิลิโคนมีขนาดยาวหรือใหญ่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณคางมีอาการตึงและบางลง จนเกิดการทะลุตามมาได้
การปฏิบัติตัวหลังเสริมคาง
หลังจากทำการเสริมคางเรียบร้อยแล้ว สามารถดูแลตัวเองเพื่อลดอาการบวมและทำให้คางเข้าที่ได้เร็วด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ในช่วง 1-3 วันแรกหลังจากทำการเสริมคางให้ทำการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมด้วยการใช้เจลลดไข้แช่เย็น ถุงน้ำแข็งที่ห่อด้วยผ้าหรือพลาสติกอีกชั้นเพื่อป้องกันน้ำแข็งละลาย
- ตั้งแต่วันที่ 4 เป็นต้นไปใช้การประคบอุ่นจนกว่าจะตัดไหม โดยการนำเจลไปแช่ในน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนแล้วนำมาประคบเข้าที่สองแก้ม
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด ยาลดบวม
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น และเลือดหยุดไหลช้าลง
- ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอช่วยหรือนอนศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวมอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- งดการรับประทานอาหารสจัด ทั้งเปรี้ยวจัด เผ็ดจัดอาจจะทำให้ปวดแสบแผลได้
- แนะนำให้เน้นรับประทานอาหารรสอ่อน และเป็นอาหารที่ไม่ต้องใช้แรงในการบดเคี้ยวมาก
- งดเท้าคางเป็นเวลา 3-6 เดือน หลังจากทำการเสริมคาง
- ห้ามบีบนวด ในระยะ1สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เพราะจะทำให้มีอาการอักเสบได้
- งดการนอนตะแคง ก็ให้งด 1 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง อาหารทะเล อาหารสุกๆ ดิบๆ เป็นต้น
- ควรทำความสะอาดแผล และป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อเป็นประจำ ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
- ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะทำการตัดไหม หรือถ้าหากน้ำโดนผ้าพันดามแผล ให้แกะออกทันที แล้วทำความสะอาดแผลให้เรียบร้อย
- ใช้คอตตอนบัดชุบน้ำเกลือเช็ดคราบกาวและคราบเลือดให้สะอาด
- ใช้คอตตอนบัดชุบเบตาดีนเช็ดบริเวณปากแผลเพียงแค่รอบเดียว หลังจากนั้นให้เช็ดด้วยน้ำเกลืออีกที
- ใช้คอตตอนบัดชุบขี้ผึ้งและทาลงไปบนแผลบางๆ เพี่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่แผล
- ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ห้ามใช้ผ้าหรือพลาสเตอร์ปิดแผลเด็ดขาด เพื่อป้องกันแผลหายช้า
- ถ้าหากรู้สึกปวดมากกว่าปกติ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการเสริมคาง แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ในทันที
อ่านวิธีการดูแลตัวเองหลังการเสริมคางเพิ่มเติมได้ที่ 23 การดูแลตนเองหลังเสริมคาง ให้ปลอดภัย คางสวยเป๊ะ ที่สุด !
เสริมคางพักฟื้นกี่วัน
หลังจากเสริมคางเสร็จจะใช้เวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน และจะบวมเต็มที่ในช่วง 3-7 วันเท่านั้น ในระหว่างการพักฟื้นจึงสามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติ และหลังจากนั้นแพทย์จะนัดมาตรวจสอบแผลและทำการตัดไหมต่อไป ซึ่งจะนัดตัดไหมหลังจากการทำศัลยกรรมคางไปแล้วประมาณ 7 วัน
เสริมคางจะมีแผลเป็นหรือไม่
การเกิดแผลเป็นนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากสภาพผิวของบางคนอาจเกิดคีลอยด์ได้ง่าย แต่ส่วนใหญ่มักไม่เป็นแผลเป็น หรือสำหรับใครที่ทำคางมาแล้วพบว่า แผลเริ่มนูนๆ แข็งๆ กังวลว่าจะเป็นไต อาจจะยังด่วนสรุปไม่ได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผิวเริ่มเข้าสู่โหมดการสร้างคอลลาเจน แนะนำให้นวดเบาๆ เพื่อให้แผลที่เคยนูน แข็ง เป็นไตค่อยๆ คลายลงจนหายดี
สรุป
อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมและได้คำตอบที่สงสัยเกี่ยวกับการเสริมคางและข้อควรระวังที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังจากการทำคางกันไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ยังคงเป็นการเลือกทำกับคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงควรดูแลตัวเองให้ดีตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังการศัลยกรรม รวมถึงระมัดระวังไม่ให้ใบหน้าถูกกระทบกระเทือนจนคางเบี้ยว แล้วต้องกลับมาแก้ซ้ำอีกรอบด้วย
แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจและต้องการข้อมูลการเสริมคางเพิ่มเติมมากขึ้น WE Clinic ของเรายินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่การประเมินรูปหน้า ออกแบบทรงคางที่เข้ากับคุณให้ได้ ไปจนถึงการลงมือเสริมคางด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยทักมาสอบถามหรือนัดหมายกับแพทย์ได้ทาง facebook หรือ Line พวกเรา ยินดีให้คำปรึกษาได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ