ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร เคล็ดลับทำหน้าเรียว กรอบหน้าชัด ดีจริงไหม? [ดูคำตอบ]

การฉีดโบท็อกซ์-คืออะไร

มีปัญหาเรื่องรูปทรงหน้าไม่ได้ดั่งใจอยู่หรือเปล่า? อยากลองเปลี่ยนรูปหน้ากลม เหลี่ยม บานที่เป็นอยู่ให้ดูเรียวเล็ก กระชับ และมีกรอบหน้าที่ชัดดูบ้างไหม? ปัญหาเหล่านี้แก้ไขกันได้ง่ายๆ เลยด้วยการ “ฉีดโบท็อกซ์” หนึ่งในเคล็ดลับความสวย ความหล่อของทุกคน ที่ต้องบอกต่อ เพราะทำแล้วช่วยให้สวย หล่อขึ้นได้ทันทีแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์ไอจีอีกต่อไป!

แต่สำหรับ คนไหนที่ไม่เคยฉีดโบท็อกซ์มาก่อน อาจจะรู้สึกกังวลว่า จะต้องเตรียมตัวยังไง อันตรายไหม แล้วจะเลือกโบท็อกซ์ของยี่ห้อไหนดี ในฐานะที่ we clinic เราคือผู้เชี่ยวชาญ วันนี้เราเลยขอหยิบ ทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับโบท็อกซ์มาตอบ ให้หายข้องใจ เพื่อเตรียมตัว ฉีดโบท็อกซ์ ไปพร้อมๆ กันเลย

โบท็อกซ์ คืออะไร

โบท็อกซ์ หรือการฉีด Botulinum Toxin Type A (โบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ) เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) โดยนำมาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว

ในอดีตโบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 โดยนำมาใช้กันอย่างกว้างขวางสำหรับการรักษาโรค หรือภาวะที่กล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป

แต่ต่อมาได้นำมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมเสริมความงาม เพื่อช่วยลดปัญหาริ้วรอยของ ในบริเวณต่างๆ ไปจนถึงช่วยปรับกรอบหน้าให้ดูชัดขึ้น กรามเล็กลง ซึ่งเป็นวิธีทำให้หน้าเรียวที่ได้ผลดีมากและเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ยืนยันได้จาก สถิติของ ISAPS (สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ) ที่ระบุว่า โบท็อกซ์ จัดเป็นหัตถการที่มีผู้นิยมใช้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของหัตถการเพื่อความงามทั้งหมดเลยก็ว่าได้

โบท็อก ทำงานอย่างไร

เมื่อทำการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว Botulinum Toxin Type A จะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ทำให้ริ้วรอยที่เกิดขึ้นหายไป

เนื่องจากตัวยาจะออกฤทธิ์จับกับปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว กล้ามเนื้อจึงผ่อนคลายลง นอกจากนี้โบท็อกซ์ยังจะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์หลักที่สร้างคอลลาเจน เพื่อให้เกิดการผลิตคอลลาเจนมากขึ้น ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น และกระชับมากขึ้นนั่นเอง

ฉีดโบท็อกซ์ ได้ผลจริงไหม

การทำงานของโบท็อกซ์นี้ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผลจริง จากงานวิจัยของ William J Binder (2006) ที่ทำการติดตามผลใน Identical Twins หรือฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน ทำให้มีใบหน้าที่เหมือนกัน เป็นเวลา 13 ปี โดยผลจากการวิจัยนี้พบว่า ฝาแฝดที่ทำการฉีดโบท็อกซ์อย่างสม่ำเสมอมีใบหน้าที่ดูอ่อนวัยกว่า มีริ้วรอยน้อยกว่า เมื่อเทียบกับฝาแฝดอีกคนที่ไม่ได้ฉีดหรือฉีดน้อยมาก แสดงว่า โบท็อกซ์สามารถช่วยป้องกันริ้วรอยลึกได้จริง แถมยังช่วยเพิ่มคุณภาพบริเวณของผิวที่ฉีดให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

โบท็อกซ์ ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง

ส่วนใหญ่ มักจะนิยมฉีดโบท็อกซ์กันในบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย รวมไปถึงฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการยกกระชับเพิ่ม ซึ่งการฉีดในตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลเร็ว ใครที่สนใจลองมาดูตำแหน่งที่ we clinic รวบรวมมาให้กันเลยดีกว่าว่า มีจุดไหนบ้างที่คุณสามารถฉีดโบท็อกซ์ได้

  • ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย เช่น ฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว, โบท็อกลดตีนกา, โบท็อกหน้าผาก, โบท็อกคิ้ว
  • ฉีดโบท็อกหน้าเรียว เช่น ฉีดโบท็อกลดกราม, โบท็อกลิฟหน้า, โบท็อกลดโหนกแก้ม
  • ฉีดโบท็อกรักแร้ เช่น โบท็อกลดเหงื่อ
  • ฉีดโบท็อกปีกจมูก
  • ฉีดโบท็อกยกหางตา
  • ฉีดโบท็อกยกมุมปาก
  • ฉีดโบท็อกน่อง
  • ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน
  • ฉีดโบท็อกแขน
  • ฉีดโบท็อกไมเกรน

ฉีดโบท็อกซ์ อันตรายไหม

ใครที่กลัวว่า การฉีดโบท็อกซ์จะเป็นอันตรายหรือไม่ แล้วปลอดภัยจริงหรือเปล่า? เรื่องนี้ยังไม่มีผลวิจัย หรือรายงานผลข้างเคียงถาวรจากการฉีดโบท็อกซ์ที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากโบท็อกซ์แท้นั้นสามารถสลายตัวเองได้ 100% ทำให้ไม่มีสารตกค้างหลังจากผ่านระยะเวลาไปแล้วสักพักหนึ่ง จึงไม่เป็นอันตราย

แต่ต่อให้เป็นการฉีดโบท็อกซ์แท้ ก็ไม่ควรที่จะซื้อไปฉีดเอง หรือเข้ารับการฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ควรที่จะเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ เพราะการฉีดโบท็อกซ์จะต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการดูปริมาณยาที่เหมาะสม บวกกับเทคนิคการฉีดที่ทำให้ไม่เกิดอันตรายตามมาด้วย

โบท็อก ยี่ห้อไหนดี

หาข้อมูลมาสักพักแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี วันนี้ we clinic มีสรุปจุดเด่นของโบท็อกซ์ของแต่ละประเทศมาให้เปรียบเทียบกันง่ายๆ ดังนี้

โบท็อกอเมริกา

โบท็อกซ์จากประเทศอเมริกา จะเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อ Botox allergan เป็นบริษัท original ของ โบท็อกที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นสารโบทูลินัมในการลดริ้วรอย และถือว่าเป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้เกิดอาการดื้อยาได้น้อยที่สุด และตัวยากระจายตัวแคบที่สุด ทำให้แพทย์คาดคะเนการกระจายตัวของยาได้แม่นยำที่สุด แต่ด้วยความที่เป็นโบท็อกซ์คุณภาพดีมากๆ จึงทำให้มีราคาที่สูงกว่าโบท็อกซ์จากประเทศอื่นๆ

โบท็อกเกาหลี

มีด้วยกันหลายยี่ห้อ ได้แก่ Botulax, Aestox, Nabota โดยจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • Botulax ตัวยาความบริสุทธิ์อยู่ที่ประมาณ 98.7% เป็นโบท็อกซ์ที่พยายามจะพัฒนาตัวยาให้ใกล้เคียงกับ Botox allergan จากอเมริกา แต่ว่าราคาถูกกว่ามาก แม้การออกฤทธิ์จะทำได้ไวกว่า allergan แต่ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า หลังฉีดหน้าไม่แข็งตึง
  • Aestox ตัวยามีความบริสุทธิ์ 99.5% หลังฉีดเห็นผลได้ไว มักนิยมฉีดเพื่อยกกระชับ และปรับรูปหน้าทั้งแบบ V Shape และ U Shape
  • Nabota ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% มีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อย จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน

โบท็อกอังกฤษ

ดิสพอร์ต (Dysport) หรือ โบท็อกซ์อังกฤษ เป็นโบท็อกซ์ที่มีโครงสร้างของสารที่มีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์ของอเมริกา จึงทำให้สามารถกระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับใช้ฉีดปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิค Dermolift หรือ ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง ฉีดลดน่อง ลดกราม ลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ

โบท็อกเยอรมัน

โบท็อกซ์จากประเทศเยอรมนี ยี่ห้อ Xeomin เป็นโบท็อกซ์ที่มีคุณสมบัติอยู่กึ่งกลางระหว่างโบท็อกซ์อเมริกากับโบท็อกซ์อังกฤษ คือ ความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยรองรับด้วยว่า ไม่ดื้อกับสาร Botulinum toxin แพทย์จึงใช้กับคนที่เคยดื้อสารมาก่อน แต่จะต้องเว้นระยะห่าง 3-4 ปี ถึงจะฉีดให้ได้

โดยที่ We Clinic จะใช้ โบท็อกซ์เกาหลี ที่เป็นที่นิยมในการเลือกฉีดโบท็อกซ์

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

ฉีดโบท็อกครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? มาดูขั้นตอนการเตรียมตัวง่ายๆ ได้เลย ดังนี้

  1. เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือผ่านมาตรฐานการรับรอง รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกซ์ที่ทางคลินิกใช้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร ต่างกันอย่างไร และเป็นของแท้หรือไม่
  2. งดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของอาการเขียวช้ำ
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนไปฉีด
  4. ควรงดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือดเช่น NSAIDs, แอสไพริน
  5. ก่อนรับการฉีด ควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากจนเกินไป

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่างการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยจะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน ส่วนโบท็อกซ์เพื่อหน้าเรียว จะเริ่มเห็นผลใน 1-2 เดือนหลังการฉีด

ฉีดโบท็อกแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาของโบท็อกช์จะอยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือนแล้วจะสลายไปตามธรรมชาติ ไม่เหลือสารตกค้าง ทั้งนี้ ระยะเวลาจะนานแค่ไหนก็ต้องดูด้วยว่า ฉีดในตำแหน่งไหน ฉีดในปริมาณเท่าไหร่ รวมถึงต้องดูความลึกของริ้วรอยเหี่ยวย่น และปริมาณกล้ามเนื้อประกอบด้วย

การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

อยากให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น แนะนำให้ปฏิบัติตัวหลังฉีด ดังนี้

  • หลังฉีดโบท็อกซ์ในแต่ละจุดควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง หรือเคี้ยวหมากฝรั่งประมาณ 20 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายไปทั่วกล้ามเนื้อ
  • หลีกเลี่ยงการนอนราบประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันตัวยากระจายไปยังจุดอื่นๆ
  • งดการนวดหน้า การทำเลเซอร์ร้อน หรือการทำซาวน่าเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น รู้สึกแข็งไปทั้งใบหน้า
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และการรับประทานอาหารหน้าเตาร้อนๆ
  • ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดซึมของโบท็อกซ์

ฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่

ราคาของโบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ตำแหน่ง และปริมาณที่ใช้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินตามความเหมาะสม

ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี

สำหรับใครที่ต้องการฉีดโบท็อก และแน่ใจแล้วว่าอยากสวย อยากหล่อด้วยโบท็อก แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปฉีดที่ไหนดี เรามีวิธีการดูเลือกคลินิกที่ปลอดภัย และน่าเชื่อถือมาฝากกัน

  1. ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าคลินิกที่จะเข้าไปใช้บริการเปิดอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ (เช็กดูได้จากใบอนุญาตกิจการตามมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งติดอยู่หน้าคลินิก)
  2. เลือกฉีดกับแพทย์ที่น่าเชื่อถือ โดยตรวจสอบชื่อ-สกุลของแพทย์จากเว็บไซต์แพทยสภา เพื่อตรวจสอบหน้าและชื่อว่าตรงกันหรือไม่
  3. ตรวจสอบว่า คลินิกใช้โบท็อกซ์แท้หรือไม่จากเลขที่อย. มีวันผลิต วันหมดอายุที่กล่องกับขวดต้องตรงกัน และระบุว่านำเข้าโดยบริษัทใด และควรระวังคลินิกที่ใช้โบท็อกซ์ผสมน้ำเกลือในปริมาณมาก จนถึงขั้นเจือจาง
  4. หารีวิวหรือสอบถามจากลูกค้าที่เคยไปใช้บริการจริง
  5. ไม่แน่ใจให้สอบถามกับคลินิกโดยตรง อย่าง we clinic ของเราก็มีบริการให้คำปรึกษา โดยคุณสามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษา เพื่อให้คุณหมอประเมินโดยตรงได้เลย

นอกจากโบท็อกซ์แล้วมีหัตถการอะไรอีกบ้าง

นอกจากการฉีดโบท็อกซ์แล้ว ก็ยังมีหัตถการทางเลือกอื่นๆ ที่ช่วยทำให้ ใบ หน้าเร็วเล็กและดูกระจ่างใสได้สมใจ ไม่ว่าจะเป็น…

  • ฟิลเลอร์ : เป็นการนำสารเลียนแบบจากสารที่มีในเซลล์ผิวของเราตามธรรมชาติฉีดเข้าไปบริเวณในบริเวณผิวที่มีปัญหา เพื่อช่วยเติมเต็มและเสริมชั้นในผิวหนัง, ใต้ผิวหนัง ให้ดูกระจ่างใส และลดรอยบุ๋มของผิวให้น้อยลง
  • ร้อยไหม : เป็นวิธีการนำไหมสอดเข้าไปในระนาบแนวความลึกของชั้นหนังแท้ เพื่อยกกระชับใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อให้หน้าดูใส ขุมขนกระชับ และผิวเรียบเนียน
  • เมโสแฟต : วิธีการฉีดตัวยาเพื่อสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า เหนียง เพื่อลดเซลล์ลูไลท์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดโบท็อกเจ็บไหม

จริงๆ แล้วการฉีดโบท็อกก็ไม่เจ็บและไม่น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด หากไม่ได้เป็นคนกลัวเข็มก็จะเหมือนกับการฉีดยาทั่วไป แต่ถ้าหากกลัวเจ็บมากก็สามารถประคบน้ำแข็งหรือทายาชาเพื่อลดความเจ็บได้ แต่การันตีได้ว่า เจ็บน้อยกว่าการศัลยกรรมผ่าตัด แถมยังไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย

ฉีดโบท็อกซ์ ออกกำลังกายได้ไหม

ในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดควรงดออกกำลังกายหนักๆ หรือการออกทำไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้หน้าแดง แต่หลังจากนั้นสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ เพียงแต่อาจจะหลีกเลี่ยงความร้อนเท่าที่ทำได้ เพื่อให้โบท็อกซ์อยู่กับคุณได้นานขึ้น

ฉีดโบท็อก นอนตะแคงได้ไหม

ภายใน 3-4 ชั่วโมง หลังฉีดเสร็จใหม่ๆ ยังไม่ควรไปนอนราบ หรือนอนตะแคง เพราะเป็นช่วงที่ยากำลังซึมเข้ากล้ามเนื้อ อาจจะทำให้โบท็อกกระจายตัวไปยังจุดอื่นๆ ได้

ฉีดโบท็อกซ์ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม

ในช่วง 2 วันแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ ควรเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากแอลกอฮอล์จะเข้าไปเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด ทำให้ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ลดลงได้

ฉีดโบท็อกแล้วดื้อยา

สาเหตุของการฉีดโบท็อกซ์แล้วดื้อยา เกิดจากการฉีดโบท็อกซ์ปลอมหรือโบท็อกที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งโบท็อกซ์เหล่านี้เต็มไปด้วยสารเจือปนหรือโปรตีนตัวพาสูง จนมีสารตกค้างในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถจดจำและสร้าง Antibody ขึ้นมาทำลายโบท็อกซ์ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุให้การฉีดโบท็อกซ์ในครั้งต่อๆ ไปไม่ได้ผล หรือเห็นผลน้อยลงเรื่อยๆ นั่นเอง

สรุป

โบท็อกซ์ ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับผิว รูปหน้า และริ้วรอยให้ ได้มากมาย แถมเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ในปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือหน้าไม่ตึงแข็ง แถมยังเห็นผลลัพธ์ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย

สำหรับใคร ที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ ก็อย่าลืมเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อกซ์ หลังทำจะได้ไม่มีปัญหา “หน้าตึงโบฯ” ตามมา โดยสามารถปรึกษาทีมหมอที่มีประสบการณ์ของ we clinic ศูนย์ศัลยกรรมความงามได้เลยทาง facebook หรือ Line พวกเรา ยินดีให้คำปรึกษาได้ฟรี

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ

ปรึกษา เสริมคาง เสริมจมูก ออนไลน์
Line chat facebook chat