ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ ใช้กี่ CC? พร้อมอัปเดตทรงปากสุดฮิตที่สายฝอห้ามพลาด

ฉีดปากสายฝอ คืออะไร ?

การฉีดปากสายฝอ คือเทคนิคการเติมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ขอบปากชัด และมีวอลลุ่มบริเวณกลางปากอย่างมีมิติ สไตล์เดียวกับลุคเซ็กซี่ของดาราฝั่งตะวันตก 

เทคนิคนี้ไม่เพียงแค่เสริมความเซ็กซี่ให้ริมฝีปาก แต่ยังช่วยปรับองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้าให้ดูโดดเด่นและทันสมัยมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นใด ๆ

สารเติมเต็มที่นิยมใช้คือ ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีลักษณะเป็นเจลใสที่สามารถผสานกับเนื้อเยื่อใต้ผิวได้อย่างแนบเนียน ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากชุ่มชื้น และคงความนุ่มฟูในแบบที่หลายคนต้องการ  

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ทำไม “ฉีดปากสายฝอ” ถึงได้รับความนิยม ?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รูปปากอวบอิ่ม ขอบชัด และมีวอลลุ่มตรงกลางแบบสายฝอ กลายเป็นหนึ่งในลุคที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการเสริมความมั่นใจและเพิ่มมิติให้ใบหน้า 

การฉีดปากสายฝอ จึงไม่ใช่แค่ตามกระแส แต่เป็นหนึ่งในเทคนิคเสริมความงามที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างตรงจุด

1. เข้ากับเทรนด์ความงามในปัจจุบัน

ลุคสายฝอที่ดูมั่นใจ เซ็กซี่ และมีเสน่ห์ กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ริมฝีปากที่ได้สัดส่วนและดูมีวอลลุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ 

ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีพลังและน่าดึงดูดมากขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากก็เป็นวิธีที่ง่ายและเห็นผลชัดในการเปลี่ยนลุคให้เข้ากับเทรนด์นี้

2. เสริมบุคลิกให้ดูมั่นใจยิ่งขึ้น

การมีริมฝีปากที่ได้รูปไม่เพียงแค่ช่วยให้ดูสวยขึ้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจในการพูด การยิ้ม และการแสดงออกทางสีหน้า ริมฝีปากที่ดูชัดเจนขึ้นสามารถเปลี่ยนลุคโดยรวมให้ดูสดใสและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น

ทำไมฉีดปากสายฝอถึงได้รับความนิยม

3. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

หนึ่งในข้อดีของการฉีดปากสายฝอ คือเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ 

เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วนแต่ยังคงความปลอดภัยไว้เป็นอันดับแรก  เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ในปัจจุบันมีความแม่นยำสูง สามารถออกแบบรูปทรงของริมฝีปากให้เหมาะกับโครงหน้าของแต่ละบุคคล 

ไม่ว่าจะต้องการเพิ่มวอลลุ่ม เติมขอบปากให้คมชัด หรือแก้ไขรูปปากเดิมที่ไม่สมดุล ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดปากสายฝอ

แม้การฉีดปากสายฝอ จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลไว และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ก่อนตัดสินใจทำ 

ควรพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวย ปลอดภัย และเหมาะกับตัวเราที่สุด โดยมีประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงดังนี้:

1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน

ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น ฟิลเลอร์แท้จากบริษัทที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบได้ว่ามีเลข อย. 

และสามารถขอดูกล่องพร้อมบาร์โค้ดก่อนฉีดได้เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม

2. ปรึกษาแพทย์ก่อนทำเสมอ

การฉีดปากไม่ใช่แค่เติมให้เต็ม แต่ต้องออกแบบให้เข้ากับรูปหน้า สัดส่วนปากเดิม และความต้องการของแต่ละบุคคล การพูดคุยกับแพทย์ก่อนทำจึงสำคัญมาก 

เพื่อให้ประเมินรูปปากเดิม วางแผนปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และเลือกทรงปากที่เข้ากับเราแบบไม่ฝืนธรรมชาติ

3. การดูแลหลังฉีดก็สำคัญไม่แพ้กัน

หลังจาก ฉีดปากสายฝอ ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น หลีกเลี่ยงความร้อน การสัมผัสแรง ๆ การแต่งหน้าจัดบริเวณปากในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดี ผลลัพธ์จะออกมาสวยและอยู่ได้นานขึ้น

ทรงปากสายฝอ แบบไหนกำลังฮิต?

สำหรับใครที่กำลังสนใจ ฉีดปากสายฝอ แต่ยังไม่แน่ใจว่าทรงแบบไหนจะเหมาะกับตัวเองดี ลองมาทำความรู้จักกับทรงปากยอดฮิตที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่อยากเพิ่มเสน่ห์ให้ริมฝีปาก ดูอวบอิ่ม เซ็กซี่ และสวยแบบมีมิติ ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับใบหน้าของแต่ละคนได้ ดังนี้:

ทรงปากสายฝอ แบบไหนกำลังฮิต

1. Full Volume Lips – ปากอวบอิ่มเต็มสัดส่วน

เป็นทรงปากที่เน้นความอวบอิ่มทั้งริมฝีปากบนและล่างในสัดส่วนใกล้เคียงกัน (1:1) ทำให้ปากดูแน่น เต็ม และเซ็กซี่แบบชัดเจน ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคสายฝอที่ดูมั่นใจ โครงหน้าชัด และต้องการให้ปากเป็นจุดเด่นบนใบหน้า

2. Heavy Lower Lips – เน้นวอลลุ่มปากล่าง

ลักษณะเด่นของทรงนี้คือการเติมฟิลเลอร์ให้ริมฝีปากล่างดูมีเนื้อมากกว่าริมฝีปากบน เพื่อเพิ่มมิติให้หน้าดูเซ็กซี่ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทรงนี้เหมาะกับคนที่ต้องการลุคที่ดูเย้ายวน มีเสน่ห์แบบนุ่มลึก

3. Wide Lips – ขยายขอบปากให้ดูยาวและเต็ม

Wide Lips คือการปรับขอบปากให้กว้างออกด้านข้างเล็กน้อย พร้อมเติมวอลลุ่มแบบสมดุลทั้งบนและล่าง ทรงนี้ช่วยให้ใบหน้าดูมีพื้นที่มากขึ้น ปากดูเต็มขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปากแคบ หรือไม่มีมุมปาก และต้องการลุคที่ดูอินเตอร์ เซ็กซี่ และน่าค้นหา

4. Cupid’s Bow – เน้นกระจับปากให้ชัด

แม้จะดูหวานกว่าแบบอื่นเล็กน้อย แต่ทรงนี้ก็ยังคงกลิ่นอายสายฝอไว้ได้ดี โดยเน้นให้บริเวณกระจับปาก (Cupid’s bow) คมชัดและสวยโค้ง เพิ่มเสน่ห์เวลายิ้ม เหมาะกับคนที่อยากได้ลุคหวานปนเซ็กซี่ 

ฉีดปากสายฝอ เหมาะกับใครบ้าง ?

ฉีดปากสายฝอ เหมาะกับใครบ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เซ็กซี่ และชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มต่อไปนี้:

  • ผู้ที่มีริมฝีปากบาง หรือเนื้อปากน้อย ต้องการเติมวอลลุ่มให้ปากดูเต็มและสวยสมส่วน
  • ผู้ที่ต้องการลุคสายฝอแบบเซ็กซี่ มั่นใจ และมีเสน่ห์ชัดเจน
  • ผู้ที่มีรูปปากไม่สมดุล เช่น ปากสองข้างไม่เท่ากัน หรือขอบปากไม่คม
  • ผู้ที่มีปากคว่ำ มุมปากตก ต้องการปรับให้หน้าดูสดใสและเป็นมิตรมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบริมฝีปาก หรือปากแห้งตกร่อง ต้องการฟื้นฟูให้ปากเรียบเนียนและชุ่มชื้น
  • ผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปปากในอนาคต เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายตัวได้เอง ไม่ใช่การปรับถาวร

ฉีดปากสายฝอ ควรใช้ฟิลเลอร์กี่ CC ?

ฉีดปากสายฝอ ควรใช้ฟิลเลอร์กี่ CC

การฉีดปากสายฝอ เป็นการปรับแต่งรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ขอบปากคมชัด และมีมิติในสไตล์เซ็กซี่แบบสายฝรั่ง ซึ่งปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับลักษณะริมฝีปากเดิมและผลลัพธ์ที่ต้องการ 

โดยทั่วไปแพทย์มักเริ่มต้นฉีดที่ 1 CC สำหรับผู้ที่มีรูปปากค่อนข้างสมส่วนอยู่แล้ว และต้องการเพียงเติมวอลลุ่มเล็กน้อยเพื่อให้ขอบปากชัดขึ้นแต่ในกรณีที่

  • ริมฝีปากบาง
  • เนื้อปากน้อย
  • หรือมีปัญหารูปปากไม่สมดุล อาจจำเป็นต้องใช้ ประมาณ 1.5–2 CC เพื่อให้ได้ทรงที่ดูอิ่มเต็มและมีความคมชัดตามแบบฉบับของปากสายฝอ

ทั้งนี้หากต้องการทรงปากที่โดดเด่นมากขึ้น หรือมีแผนปรับรูปทรงเพิ่มเติมในอนาคต แพทย์อาจแนะนำให้ค่อย ๆ เติมในภายหลังเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

จึงควรเข้ารับการประเมินกับแพทย์ก่อนฉีด เพื่อวางแผนปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับรูปปากและความต้องการของแต่ละบุคคลนะคะ

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน เหมาะกับการฉีดปากสายฝอ ?

การฉีดปากสายฝอ ต้องอาศัยฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ คือเนื้อเจลต้องนุ่ม ละเอียด ยืดหยุ่นดี และสามารถอุ้มน้ำได้ เพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและมีวอลลุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ 

ฟิลเลอร์ที่ดีควรสามารถเกลี่ยเข้ารูปได้ง่าย ปั้นทรงได้ชัดเจน และกลืนไปกับเนื้อริมฝีปากได้อย่างแนบเนียน ซึ่งยี่ห้อที่นิยมใช้และได้รับการรับรองว่าปลอดภัย มีดังนี้:

1. Juvederm

  • ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกันที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
  • เนื้อเจลนุ่ม ยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงง่าย ดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ
  • รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก: Juvederm Volbella
  • ระยะเวลาคงอยู่: ประมาณ 9–12 เดือน

2. Restylane

  • ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่แพทย์เลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย
  • มีเนื้อเจลที่คงตัว ปั้นทรงได้ดี และสามารถควบคุมรูปทรงได้แม่นยำ
  • รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก: Restylane Kysse (พัฒนาเฉพาะสำหรับปาก)
  • ระยะเวลาคงอยู่: ประมาณ 6–12 เดือน

4. EPTQ

  • ฟิลเลอร์เกาหลีอีกหนึ่งแบรนด์ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่ม ปั้นทรงง่าย และให้วอลลุ่มได้ดีโดยไม่เป็นก้อน
  • รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก: EPTQ S100
  • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดูอิ่มฟูแบบธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดปากสายฝอ
  • ระยะเวลาคงอยู่: ประมาณ 6–12 เดือน

3. Neuramis

  • ฟิลเลอร์เกาหลีที่ได้รับความนิยมในไทย
  • เนื้อเจลแน่นแต่ยืดหยุ่น เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ
  • รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก: Neuramis Volume
  • เหมาะสำหรับการเพิ่มวอลลุ่มริมฝีปากและเติมขอบปากให้ชัดเจน
  • ระยะเวลาคงอยู่: ประมาณ 6–12 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการดูแล)

ข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดปากสายฝอ

  • ฟิลเลอร์สำหรับริมฝีปากควรเป็นฟิลเลอร์แท้ ผ่านการรับรองจาก อย. (องค์การอาหารและยา) เท่านั้น
  • ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีด เพื่อเลือก ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ที่เหมาะกับลักษณะริมฝีปากและความต้องการของแต่ละคน
  • แม้แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่ดี แต่การเลือกใช้ให้เหมาะกับการฉีดปากจะให้ผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัยที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ ราคาเท่าไหร่ ?

ที่ WE Clinic โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ มีให้เลือก 2 ระดับราคาตามยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ ดังนี้:

  • Restylane ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท / 1 CC เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิลเลอร์คุณภาพสูง เนื้อเจลละเอียด ปั้นทรงสวย และติดทนในระดับดีเยี่ยม
  • EPTQ ราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท / 1 CC เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาฟิลเลอร์ที่ปั้นทรงง่าย ราคาจับต้องได้ และให้ผลลัพธ์อวบอิ่มในสไตล์สายฝอ

หมายเหตุ: ราคาจะแตกต่างกันไปตามรุ่นของฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปริมาณที่เหมาะสมกับรูปปากค่ะ

ฉีดปากสายฝอ เตรียมตัวอย่างไร ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสให้ผลลัพธ์ออกมาสวยอย่างที่ตั้งใจ โดยควรปฏิบัติดังนี้:

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฉีด แจ้งแพทย์เกี่ยวกับความต้องการ ลักษณะปากเดิม โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือหัตถการที่เคยทำบริเวณริมฝีปาก เช่น การฉีดฟิลเลอร์ครั้งก่อน เพื่อให้แพทย์ประเมินอย่างรอบคอบ
  • หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด หยุดใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน รวมถึงอาหารเสริมจำพวกวิตามินอี น้ำมันปลา โสม ฯลฯ อย่างน้อย 3–7 วันก่อนฉีด
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนล่วงหน้า 24 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากการไหลเวียนเลือดที่มากเกินไป ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำหรือบวม
  • ดูแลสุขภาพให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง และดื่มน้ำให้มากเพียงพอในวันก่อนฉีด เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นและผิวตอบสนองต่อฟิลเลอร์ได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันฉีด ควรล้างหน้าให้สะอาด และงดแต่งหน้าโดยเฉพาะบริเวณริมฝีปาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการระคายเคืองบริเวณที่จะฉีด

การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มโอกาสให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลตัวเองอย่างไร

หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเพื่อให้ผลลัพธ์เข้าที่สวยงาม อยู่ได้นาน และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยข้อควรปฏิบัติหลักมีดังนี้:

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนหรือเสียทรง
  • งดความร้อนสูงในช่วงแรก หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน, ซาวน่า, หรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณริมฝีปาก หลีกเลี่ยงการทาลิปสติก ครีม หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบปากในช่วง 1–2 วันแรก เพื่อลดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  • สามารถใช้ยาแก้ปวดตามคำแนะนำแพทย์ หากมีอาการปวดตึงหรือบวมเล็กน้อยหลังฉีด สามารถรับประทานยาแก้ปวดหรือยาแก้บวมที่แพทย์จ่ายให้ได้
  • หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดการบวมช้ำได้ง่าย และส่งผลต่อการฟื้นตัวของฟิลเลอร์
  • รอดูผลลัพธ์โดยไม่เร่งประเมินในทันที อาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1–3 วัน ผลลัพธ์จะเริ่มเข้าที่ภายใน 7–14 วัน หากยังไม่พอใจสามารถกลับมาปรึกษาแพทย์เพื่อปรับแต่งเพิ่มเติมได้ค่ะ
  • หากมีอาการผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ทันที เช่น ปวดมากขึ้นผิดปกติ บวมแดงรุนแรง หรือมีรอยคล้ำเป็นปื้น ควรกลับไปที่คลินิกโดยเร็วเพื่อรับการตรวจและดูแล

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ ที่ไหนดี ?

เพื่อให้ผลลัพธ์การฉีดปากสายฝอออกมาสวย ตรงตามความต้องการ ควรเลือกคลินิกก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอดังนี้

  • คลินิกมีเลขที่ใบอนุญาตประกอบการ และภายในคลินิกสะอาด
  • แพทย์มีความเชี่ยวชาญสามารถประเมินปาก และแนะนำปริมาณฟิลเลอร์กับคนไข้อย่างเหมาะสม
  • สามารถตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้ก่อนฉีดได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ มีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย
  • มีรีวิวฉีดปากสายฝอที่น่าเชื่อถือ มีรูปทั้งก่อนทำ และหลังทำ

สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝด

ฟิลเลอร์ปากสายฝอเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม มีมิติ และโดดเด่นในสไตล์สาวสายฝอ 

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนลุคอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถออกแบบทรงปากให้เข้ากับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เพื่อผลลัพธ์ที่สวยปลอดภัย ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากคุณกำลังมองหาความมั่นใจในทุกมิติของริมฝีปาก 

WE Clinic เราพร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิด พร้อมให้คำแนะนำและดีไซน์รูปปากที่เหมาะกับคุณที่สุด สวยครบ จบในที่เดียว

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ

ปรึกษา เสริมคาง เสริมจมูก ออนไลน์
Line chat facebook chat