รู้ให้ลึกหัวนมบอด คืออะไร เผยสาเหตุและวิธีการรักษาที่คุณควรรู้

หัวนมบอดอาจดูเหมือนปัญหาภายนอกที่ไม่สำคัญ แต่ในบางกรณีอาจซ่อนสัญญาณของโรคไว้โดยไม่รู้ตัว 

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักภาวะหัวนมบอดให้ครบทุกมิติ ตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีสังเกต ไปจนถึงแนวทางรักษาทั้งแบบธรรมชาติและการผ่าตัด พร้อมตอบคำถามยอดฮิตว่า “หัวนมบอดอันตรายไหม?” และ “จำเป็นต้องรักษาหรือไม่?” บทความนี้มีคำตอบ

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

หัวนมบอด คืออะไร?

หัวนมบอด (Inverted Nipple) คือภาวะที่หัวนมยุบหรือบุ๋มเข้าไปในเนื้อเต้านม แทนที่จะยื่นออกมาตามปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งข้างเดียวหรือสองข้าง และพบได้ในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 

โดยบางคนเป็นมาตั้งแต่กำเนิดจากโครงสร้างท่อน้ำนมหรือฐานหัวนมที่ผิดปกติ ขณะที่บางรายเกิดภายหลังจากพังผืดจากการผ่าตัดเต้านม หรือการให้นมบุตรผิดวิธี 

แม้หัวนมบอดมักไม่อันตราย แต่ในบางกรณีอาจส่งผลต่อการให้นมบุตร หรือกระทบต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ร่างกายได้

หัวนมบอดเกิดจากอะไร

ภาวะหัวนมบอดสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งที่มีมาตั้งแต่กำเนิดและที่เกิดขึ้นในภายหลัง โดยสามารถแบ่งสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้:

1. ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด

เกิดจากโครงสร้างท่อน้ำนมหรือเนื้อเยื่อใต้หัวนมที่พัฒนาไม่สมบูรณ์ เช่น ท่อน้ำนมสั้น หรือเนื้อเยื่อรั้งหัวนมแน่นเกินไป พบได้บ่อยและมักไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

2. การเกิดพังผืดในเนื้อเยื่อเต้านม

พังผืดเป็นเนื้อเยื่อแข็งที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการอักเสบหรือบาดเจ็บ เมื่อเกิดใต้หัวนมหรือรอบท่อน้ำนม อาจรั้งให้หัวนมหดหรือยุบเข้าไปได้ พบบ่อยในกรณีต่อไปนี้:

  • การอักเสบจากการให้นมบุตร (mastitis)
  • การให้นมผิดท่า ทำให้เกิดแรงดึงซ้ำ ๆ
  • การผ่าตัดลดขนาดหน้าอก หรือผ่าตัดเนื้องอกในเต้านม
  • การเสริมหน้าอกที่เกิดพังผืดรัดซิลิโคนแน่นผิดปกติ (capsular contracture)

หมายเหตุ: พังผืดที่รั้งท่อน้ำนมแน่น อาจทำให้หัวนมไม่สามารถยื่นออกมาได้เอง และในบางกรณีจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

3. ผลข้างเคียงจากการรักษาทางการแพทย์

เช่น การฉายแสง การผ่าตัดเนื้อเยื่อเต้านม หรือการใช้ยาบางชนิด อาจทำให้เนื้อเยื่อสูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดพังผืดตามมาได้

4. การติดเชื้อเรื้อรังบริเวณเต้านมหรือท่อน้ำนม

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม การอักเสบสามารถพัฒนาไปเป็นพังผืดที่ดึงรั้งหัวนมในระยะยาว

5. เนื้องอกหรือมะเร็งเต้านม

โดยเฉพาะกรณีที่หัวนมเคยปกติ แล้วจู่ ๆ เกิดยุบลงแบบเฉียบพลันอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งเต้านมชนิดที่ส่งผลต่อท่อน้ำนมหรือเนื้อเยื่อใต้หัวนม หากพบอาการนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที  

หัวนมบอดอันตรายไหม?

หัวนมบอดโดยทั่วไปไม่ถือว่าอันตราย หากเป็นตั้งแต่กำเนิดและไม่มีอาการอื่นร่วม แต่หากเกิดขึ้นภายหลังแบบเฉียบพลัน โดยเฉพาะข้างเดียว 

อาจเป็นสัญญาณของปัญหาภายใน เช่น เนื้องอกหรือมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติร่วม เช่น เจ็บ คลำได้ก้อน หรือมีของเหลวไหล ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง

หัวนมบอดมีกี่ระดับ?

การจำแนกระดับของหัวนมบอดช่วยให้สามารถเลือกวิธีดูแลหรือรักษาได้อย่างเหมาะสม

หัวนมบอดระดับ 1 (ขั้นต้น)

  • หัวนมหดเล็กน้อย ยังสามารถดึงออกมาได้ง่าย
  • มักโผล่เมื่อถูกกระตุ้น เช่น อากาศเย็น การสัมผัส หรืออารมณ์ทางเพศ
  • ให้นมบุตรได้ปกติ ไม่จำเป็นต้องรักษา

หัวนมบอดระดับ 2 (ขั้นปานกลาง)

  • หัวนมยุบลึกขึ้น ดึงออกได้ชั่วคราวแต่จะหดกลับทันที
  • อาจเริ่มกระทบต่อการให้นม ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ
  • บางกรณีสามารถรักษาได้ด้วยการฝึกกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ

หัวนมบอดระดับ 3 (ขั้นรุนแรง)

  • หัวนมยุบลึกและไม่สามารถดึงออกได้เลย
  • มักเกิดจากพังผืดรัดแน่นหรือท่อน้ำนมยึดติดภายใน
  • ต้องเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดเท่านั้น

วิธีสังเกตหัวนมบอดด้วยตนเอง

  1. ใช้คลำนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้วางที่บริเวณปานนม แล้วค่อยๆ กดและบีบเบาๆ หากหัวนมยื่นออกมา แสดงว่าเป็นหัวนมปกติ หากหัวนมยุบลงไป หรือดึงออกมาได้ยาก แสดงว่าอาจเป็นหัวนมบอด 
  2. เปรียบเทียบหัวนมทั้งสองข้าง หากข้างหนึ่งดูปกติ แต่อีกข้างยุบหรือแบนราบ อาจเป็นหัวนมบอดได้ 
  3. สังเกตเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง หากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หัวนมมีอาการบวม แดง เจ็บ หรือมีน้ำเหลืองไหล ควรปรึกษาแพทย์ 

ข้อควรระวัง:

  • หากพบว่าหัวนมบอดและมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้อง 
  • สำหรับคุณแม่ที่ให้นมบุตร หัวนมบอดอาจทำให้ทารกดูดยาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อขอคำแนะนำในการปรับท่าให้นม 

หัวนมบอดให้นมลูกได้ไหม?

คำตอบคือ: ได้ หากหัวนมบอดไม่รุนแรง คุณแม่ยังสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ โดยใช้เทคนิคช่วยเหลือดังนี้:

  1. จัดท่าให้ลูกเข้าเต้าอย่างถูกต้อง ให้ลูกอ้าปากกว้างและอมลึกถึงลานนม ไม่ดูดเฉพาะหัวนม การดูดนมเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นให้หัวนมนูนขึ้นได้ตามธรรมชาติ
  2. บริหารหัวนมด้วยเทคนิคฮอฟแมน (Hoffman’s Technique) ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดเบา ๆ บนลานนม แล้วดึงออกในทิศตรงกันข้าม ทำวันละ 1–2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 5 รอบ/ข้าง เพื่อยืดพังผืดใต้หัวนม
  3. ใช้อุปกรณ์ช่วยดึงหัวนม เช่น ลูกยางดูดหัวนม ปทุมแก้ว หรือเครื่องปั๊มนม ใช้ก่อนให้นม วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที
  4. กระตุ้นหัวนมก่อนให้นมลูก ใช้นิ้วคลึงเบา ๆ รอบหัวนมหรือใช้ผ้าเย็นแตะ เพื่อให้หัวนมตั้งขึ้น

หัวนมบอดรักษาได้อย่างไรบ้าง?

การรักษาหัวนมบอดขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง  โดยมี 3 วิธีหลักที่ปลอดภัยและได้รับความนิยม ดังนี้

1. การรักษาด้วยมือ เป็นวิธีธรรมชาติที่ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ เหมาะกับผู้ที่หัวนมยุบลงเพียงเล็กน้อย และสามารถฝึกทำได้เองที่บ้าน โดยควรทำอย่างสม่ำเสมอทุกวันเพื่อให้เห็นผลชัดเจนภายใน 1–3 เดือน

  • กดแยกลานนม: วางนิ้วชี้ทั้งสองข้างลงบนลานนม กดลงเล็กน้อยแล้วแยกนิ้วออกด้านข้าง เพื่อคลายพังผืดใต้หัวนม
  • บีบดึงหัวนมขณะอาบน้ำ: ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ดึงหัวนมขึ้นเบา ๆ 2–3 ครั้งในขณะอาบน้ำ เพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อให้ยืดตัว
  • บีบเต้านม + คีบหัวนม: ใช้มือบีบเต้านมเข้าหากันแล้วคีบหัวนมขึ้น ทำซ้ำอย่างน้อย 20 ครั้ง/วัน
  • คลึงหัวนม: คลึงเบา ๆ เป็นวงกลมประมาณ 30 วินาที ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหัวนมให้โผล่ขึ้นง่ายขึ้น

2. การใช้อุปกรณ์ช่วยดึงหัวนม สำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร็วขึ้น หรือมีหัวนมบอดที่ยุบลึกขึ้นมาเล็กน้อย การใช้อุปกรณ์จะช่วยให้เห็นผลชัดเจนมากขึ้นและสะดวกขึ้น

  • ที่ปั๊มหัวนม: ใช้แรงดูดสุญญากาศเพื่อดึงหัวนมให้นูนขึ้น ควรใช้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 5–10 นาที
  • ปทุมแก้ว (Breast Shell): เป็นแผ่นพลาสติกที่ออกแบบให้ครอบหัวนมใต้ชุดชั้นใน แรงกดที่เกิดขึ้นจะช่วยคลายพังผืดรอบลานนม และกระตุ้นให้หัวนมค่อย ๆ ยื่นออกมา ใช้วันละ 6–8 ชั่วโมงต่อเนื่องหลายสัปดาห์

3. การรักษาหัวนมบอดด้วยการผ่าตัด

สำหรับผู้ที่มีภาวะหัวนมบอดระดับรุนแรง ซึ่งหัวนมยุบลึกจนไม่สามารถดึงให้ยื่นออกมาได้ด้วยวิธีธรรมชาติหรืออุปกรณ์เสริม การผ่าตัดถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด

ขั้นตอนการผ่าตัดแก้ไขหัวนมบอด แพทย์จะเริ่มด้วยการเปิดแผลบริเวณฐานหัวนมหรือกรีดจากบริเวณกึ่งกลางหัวนม 

จากนั้นทำการเลาะพังผืดและท่อน้ำนมที่เป็นตัวรั้งหัวนมไว้ภายใน เพื่อคลายแรงดึงและเปิดทางให้หัวนมยื่นออกมาตามธรรมชาติ

ในกรณีที่คนไข้มีแผนให้นมบุตรในอนาคต แพทย์จะพยายาม เก็บรักษาท่อน้ำนมให้ได้มากที่สุด โดยไม่รบกวนโครงสร้างหลักของท่อน้ำนมมากเกินไป

จากนั้นจึงเย็บปิดแผลโดยออกแบบให้โครงสร้างรอบหัวนมสามารถพยุงไม่ให้เกิดการยุบตัวซ้ำอีก

การผ่าตัดนี้สามารถช่วยให้หัวนมกลับมามีรูปร่างนูนยื่นอย่างถาวร เสริมสร้างความมั่นใจและยังช่วยให้สามารถให้นมบุตรได้อย่างปกติอีกด้วย

หากคุณกำลังสนใจปรึกษาเรื่องภาวะหัวนมบอดหรือการแก้ไขหน้าอก ทาง WE Clinic มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำ ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด

ข้อดีของการผ่าตัดแก้หัวนมบอด

  • ผลลัพธ์ถาวร การเลาะพังผืดและคลายแรงรั้งภายในช่วยให้หัวนมกลับมายื่นขึ้นอย่างถาวร ไม่ยุบซ้ำหลังการรักษา
  • ปรับรูปร่างทรวงอกให้สมดุลหัวนมที่ยื่นขึ้นตามธรรมชาติทำให้หน้าอกดูได้สัดส่วนและกลมกลืนมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการแต่งกาย
  • สามารถให้นมบุตรได้ในอนาคต (ในบางกรณี) แพทย์จะพยายามเก็บท่อน้ำนมไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้สามารถให้นมได้หากต้องการมีบุตรในอนาคต
  • ฟื้นตัวเร็ว แผลเล็ก เจ็บน้อย ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัย แผลมีขนาดเล็ก ระยะพักฟื้นสั้น และมีการเย็บพยุงหัวนมเพื่อป้องกันการยุบซ้ำ

ใครควรผ่าตัดแก้หัวนมบอด?

การผ่าตัดรักษาหัวนมบอดเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการหัวนมยุบลึก หรือไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีธรรมชาติหรืออุปกรณ์ช่วยทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มต่อไปนี้

  1. ผู้ที่มีหัวนมบอดระดับปานกลางถึงรุนแรงเมื่อหัวนมยุบเข้าไปลึกจนไม่สามารถยื่นออกมาได้แม้ใช้เทคนิคบริหารหรืออุปกรณ์ช่วย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินแนวทางการผ่าตัด
  2. คุณแม่ที่ประสบปัญหาให้นมบุตรไม่ได้ หัวนมที่ไม่โผล่ออกมาทำให้ทารกไม่สามารถดูดนมได้เต็มที่ การผ่าตัดอาจช่วยให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น
  3. ผู้ที่รู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตนเอง ภาวะหัวนมบอดอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องสวมชุดว่ายน้ำหรือเผยผิวในที่สาธารณะ การแก้ไขจะช่วยเสริมบุคลิกภาพโดยรวม

การดูแลหลังผ่าตัดแก้หัวนมบอด

แม้การผ่าตัดแก้ไขหัวนมบอดจะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก แต่การดูแลอย่างถูกต้องหลังผ่าตัดมีความสำคัญในการช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็ว หัวนมคงรูปได้ดี และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้

  1. รักษาความสะอาดของแผล ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือตามที่แพทย์แนะนำ วันละ 1–2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการให้แผลสัมผัสน้ำหรือเปียกชื้นโดยตรงในช่วง 3–5 วันแรก
  2. ใส่อุปกรณ์พยุงหัวนม หลังผ่าตัด แพทย์อาจแนะนำให้อุปกรณ์พยุงหัวนม เพื่อคงรูปทรงหัวนมและป้องกันการยุบซ้ำ ควรใส่ตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
  3. หลีกเลี่ยงแรงกดทับ งดนอนคว่ำ งดใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่น และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระแทกหรือออกแรงกับทรวงอก เช่น การยกของหนัก วิ่ง หรือว่ายน้ำในช่วงพักฟื้น
  4. เฝ้าสังเกตอาการผิดปกติ
    หากมีอาการปวดมาก แดงร้อน บวม หรือมีหนองไหลจากแผล ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดได้

เสริมหน้าอกช่วยแก้หัวนมบอดได้จริงไหม?

การเสริมหน้าอกไม่ใช่การรักษาภาวะหัวนมบอดโดยตรง เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของการเสริมหน้าอกคือการเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงของเต้านม 

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี หากวางแผนร่วมกับศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์ อาจสามารถทำหัตถการเสริมหน้าอกร่วมกับการแก้ไขหัวนมบอดได้ภายในการผ่าตัดครั้งเดียว เพื่อปรับลักษณะหัวนมให้ยื่นขึ้นและดูสมส่วนมากขึ้น

การเสริมหน้าอกไม่สามารถทดแทนการผ่าตัดรักษาหัวนมบอดได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินลักษณะของปัญหาและออกแบบแนวทางการรักษาให้เหมาะสมที่สุดนะคะ

ผ่าตัดหัวนมบอด เจ็บไหม?

การผ่าตัดหัวนมบอดจัดเป็นหัตถการเล็กที่ไม่เจ็บมากอย่างที่หลายคนกังวล โดยทั่วไปจะใช้ยาชาร่วมกับยานอนหลับ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการผ่าตัด

หลังการผ่าตัด อาจรู้สึกตึง แสบ หรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณแผล ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด และมักจะฟื้นตัวได้ภายในไม่กี่วัน ผู้ไข้ส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน

หัวนมบอดสามารถป้องกันได้หรือไม่?

กรณีเป็นมาแต่กำเนิด ไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากเกิดจากโครงสร้างภายในที่เป็นมาแต่กำเนิด เช่น ท่อน้ำนมสั้น 

กรณีที่เกิดภายหลังสามารถลดความเสี่ยงได้ เช่น หลีกเลี่ยงการให้นมผิดวิธีที่อาจทำให้เกิดแรงดึงรั้งหัวนม หรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณเต้านม 

เช่น แรงกระแทกหรือการติดเชื้อเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงแรงกดหรือบีบหัวนมอย่างรุนแรง และหมั่นตรวจเช็กเต้านมเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดที่อาจดึงรั้งหัวนมในระยะยาว

สรุป

หัวนมบอดเป็นภาวะที่หัวนมยุบเข้าไป ไม่ยื่นออกมาตามปกติ ซึ่งอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดภายหลังจากพังผืด อักเสบ หรือโรคเต้านมบางชนิด 

หากปล่อยไว้อาจกระทบทั้งการให้นมบุตรและความมั่นใจในตัวเอง หัวนมบอดสามารถรักษาได้หลายวิธี ทั้งเทคนิคธรรมชาติ อุปกรณ์ช่วย ไปจนถึงการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ We Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง facebook หรือ Line ได้ที่นี่เลยครับ

ปรึกษา เสริมคาง เสริมจมูก ออนไลน์
Line chat facebook chat